ส.ถนนข้าวสาร จ่อยื่น 4 ข้อขอ ‘บิ๊กตู่’ เพิ่มคนนั่งในร้าน 75% ดริงก์ได้ถึงเที่ยงคืน เปิดเที่ยวกทม.

ส.ถนนข้าวสาร จ่อยื่น 4 ข้อขอ ‘บิ๊กตู่’ เพิ่มคนนั่งในร้าน 75% ดริงก์ได้ถึงเที่ยงคืน เปิดเที่ยวกทม.

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ในวันที่ 17 มิถุนายน สมาคมฯและผู้ประกอบการ จะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสนอให้มีมาตรการผ่อนคลายสำหรับร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มและมาตรการด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในกรุงเทพและถนนข้าวสาร ได้แก่

1. ขอให้มีมาตรการผ่อนคลายสำหรับร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ที่พนักงานร้านได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โดยขอให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ไม่เกิน 24.00 น. และสามารถบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านตามเวลาที่ระบุในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้

ปัจจุบันคือไม่เกินเวลา 24.00 น. หากมีการจากัดผู้นั่งบริโภคในร้านขอเสนอให้จำกัดผู้นั่งบริโภคในร้านได้ไม่เกินร้อยละ 75 จากเดิมกำหนดไม่เกิน 25% สำหรับการทานอาหารในร้านและไม่ได้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ โดยควรให้มีมาตรการผ่อนคลายนี้พร้อมกับที่จังหวัดภูเก็ตคือในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นี้ เพื่อเป็นการรักษาแรงงานที่อยู่ในถนนข้าวสารไม่น้อยกว่า 3,000 ชีวิต ให้สามารถมีงานทำได้

2.ขอให้มีนโยบายเปิดกรุงเทพมหานครโดยมีการผ่อนคลายมาตรการสาหรับนักท่องเที่ยวให้สามารถใช้บริการสถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหารสปารวมถึงกิจการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอื่นๆในกรุงเทพมหานครเพื่อเป็นการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ

Advertisement

3.ขอให้มีนโยบายให้ถนนข้าวสารเป็นพื้นที่นำร่องสถานประกอบการปลอด Covid-19 เพื่อเป็นต้นแบบสถานประกอบการรับนักท่องเที่ยวเป็นต้นแบบฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19เนื่องจากถนนข้าวสารเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทยเป็นแหล่งธุรกิจประกอบด้วยร้านอาหารร้านนวดสปาเกสต์เฮ้าส์โรงแรมร้านค้าของฝากรวมทั้งแผงลอยซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนไทยและต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี

4.ขอให้มีการกาหนดหลักเกณฑ์การรับท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาในประเทศไทยอย่างชัดเจนโดยออกเป็นมติ ศบค.เพื่อให้แต่ละจังหวัดใช้เป็นแนวทางร่วมกันซึ่งจะทาให้มาตรการในการป้องกันโรคและแนวทางในการเปิดรับนักท่องเที่ยวแต่ละจังหวัดเป็นทิศทางเดียวกันซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางระบบการเดินทางและความเข้าใจของนักท่องเที่ยวโดยควรจะให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เป็นเจ้าภาพหลักในการประชาสัมพันธ์ต่อนักท่องเที่ยว

โดยสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารเห็นว่าข้อเสนอข้างต้นเป็นเรื่องที่ควรเร่งพิจารณาและมีมาตรการใดๆก่อนเดือนกรกฎาคม 2564 เนื่องจากขณะนี้ภาครัฐได้มีการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน โดยบริเวณถนนข้าวสารนั้นสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารได้ทำหนังสือขอวัคซีนถึงกระทรวงสาธารณสุขเพื่อฉีดให้กับผู้ประกอบการ ลูกจ้าง พนักงานซึ่งท างานในถนนข้าวสารและขณะนี้ได้รับการตอบรับจากกรมควบคุมโรคแล้ว โดยจะได้รับการฉีควัคซีนที่จุดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ

รวมถึงลูกจ้างพนักงานของผู้ประกอบการบางส่วนได้รับวัคซีนตามสิทธิประกันสังคมคาดว่าจำนวนผู้รับการฉีดวัคซีนไม่น้อยกว่า 1,500 คน จะได้รับการฉีดภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะทำให้ลูกจ้างพนักงานของผู้ประกอบการในถนนข้าวสารส่วนใหญ่ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วซึ่งทางสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสารได้ ขอความร่วมมือกับทุกผู้ประกอบการให้ถ่ายภาพการรับการฉีดวัคซีนและหนังสือยืนยันการฉีดวัคซีนแล้วเตรียมพร้อมส าหรับการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าการเที่ยวในถนนข้าวสารนั้นปลอดภัยพร้อมกับเข้มงวดการใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบ

นายสง่า กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2563 สถานประกอบการร้านอาหารในถนนข้าวสารได้ดำเนินกิจการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเป็นเวลา 1 ปีเศษแล้ว และได้รับผลกระทบโดยตรงจากรายได้หลักเป็นศุนย์ เนื่องจากรายได้หลักของกิจการร้านอาหารในถนนข้าวสาร มาจากนักท่องเที่ยวที่บริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านโดยเฉพาะการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็น 30-40% ของรายได้ อีกการปรับตัวจาหน่ายแบบไปบริโภคที่อื่นก็ไม่มีทางที่จะชดเชยรายได้ที่หายไป

จนทำให้มีร้านที่ต้องเลิกกิจการไปหรือบางร้านต้องยอมปิดกิจการชั่วคราวเอง เพื่อไม่ให้เปิดแล้วขาดทุนยิ่งกว่าเดิม ซึ่งไม่ว่าขณะนี้จะแก้ปัญหาด้วยทางใดผู้ประกอบการทุกรายทราบดีว่า หากยังคงมีการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเช่นที่มีขณะนี้ต่อไปผู้ประกอบการไม่อาจจะดำเนินกิจการต่อไปได้สุดท้าย จะต้องเลิกกิจการในที่สุด และจะกระทบถึงลูกจ้างพนักงาน รวมถึงโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศที่หากวันหนึ่งจะสามารถหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้แล้ว ก็จะฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศได้ช้า เนื่องจากขาดกลไกจากผู้ประกอบการไปแล้ว

” จึงขอเสนอว่ามาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ควรจะมีเท่าที่จาเป็นและควบคู่ไปกับมาตรการที่ให้ผู้ประกอบการสามารถดาเนินกิจการต่อไป ได้ จึงเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศบค. ที่จะมีการประชุมศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ เพื่อพิจารณาข้อเสนอของสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เป็นการลดความเดือดร้อนผู้ประกอบการ ” นายสง่า กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image