สมาพันธ์เอสเอ็มอีเชียร์ ‘บิ๊กตู่’ ภาวะผู้กล้าประกาศ

สมาพันธ์เอสเอ็มอีเชียร์ ‘บิ๊กตู่’ ภาวะผู้กล้าประกาศ

นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วันหรือภายในเดือนตุลาคม 2564 นั้น เห็นด้วยในมิติความเป็นผู้นำที่กล้าประกาศเพื่อให้ข้าราชการ ธุรกิจ และคนไทย ทราบว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีเป้าหมายที่ชัดเจนต้องทำอะไรใน 120 วัน ตนในฐานะประชาชนชื่นชม แต่ในส่วนความเป็นไปได้หรือไม่เป็นคนละประเด็น ซึ่งต้องดูใน 4 องค์ประกอบ คือ 1.แผนขั้นตอนดำเนินการ(โรดแมป)ของข้าราชการหรือฝ่ายปฎิบัติที่จะเกิดขึ้นใน 120 วัน มีความเป็นเอกภาพและตรวจสอบได้ เป็นปัจจัยแรกที่ทำให้ประชาชนมั่นใจต่อการขับเคลื่อนได้ภายใน 120 วัน 2. แผนบริหารความเสี่ยง scenario หรือการวิเคราะห์สถานการความเสี่ยงหากภายใน 120 วัน ไม่ได้เกิดขึ้น จะมีแผนสำรองอย่างไร 3. สร้างการมีส่วนร่วมและบูรณาการการประชุมในระดับที่ต้องตัดสินใจ ทั้งการประชุมศบค. หรือ ศบศ. ควรจูนการทำงานให้บุคคลากรทุกด้านได้เป็นไปทิศทางเดียวกันนำไปสู่ทางปฎิบัติรวดเร็ว มีการวัดเป้าหมายที่ชัดเจน 4. ปรับปรุงเรื่องการสื่อสารและทำประชาสัมพันธ์ต่อภาคประชาชน ต้องชัดเจน ไม่คลุมเคลืออย่างที่เป็นมาตลอด ตอนนี้ต้องทำให้ประชาชนทราบข้อมูลจริงและเข้าใจ

“การประกาศเป้าหมายประชาชนชื่นชม แต่ใช้ได้ดีอย่างที่ประกาศนั้นสำคัญกว่า หากทำให้จริงส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการบริโภคในประเทศฟื้นตัว ซึ่งรัฐต้องเร่งขับเคลื่อนในพร้อมกันทั้ง 4 เครื่องยนต์ คือ ส่งออกทิศทางดีขึ้นแล้ว การลงทุนภาครัฐก็ต้องเร่งจัดซื้อจัดจ้างผ่านงบ 1.3 ล้านล้านบาท ก็จะกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนต่อไป แต่ตอนนี้เจอปัญหาขาดสภาพคล่อง เข้าไม่ถึงทุน ที่รัฐต้องเร่ง เรื่องนี้รัฐคงต้องเร่งก่อน 120 วัน ส่วนการบริโภคในประเทศ ไม่แค่ผ่านมาตรการที่ทำอยู่ รัฐต้องทำอย่างไรให้เกิดการซื้อในสินค้าวิสาหกิจชุมชน โอท้อป และเอสเอ็มอี ” นายแสงชัย กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image