สถานการณ์น้ำในเขื่อนเริ่มดีขึ้น ยกเว้นเขื่อนภูมิพล กรมชลฯชี้เป้ากรมฝนหลวงขึ้นบินช่วยเติมน้ำอีก 400 ล้านลบ.ม.

น้ำเขื่อนภูมิพล จ.ตาก เข้าสู่วิกฤต

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศ วันที่ 8 กันยายน 2559 มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 37,636 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 53 % ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้ 14,109 ล้านลบ.ม. มากกว่าปี 2558 ประมาณ 2,000 ล้านลบ.ม. เขื่อนใหญ่ทั้งประเทศยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 33,000 ล้านลบ.ม. ทั้งนี้หากพิจารณาสถานการณ์น้ำเป็นรายภาค จะเห็นได้ว่าในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตอนบนสถานการณ์น้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำดี ส่วนภาคกลาง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำยังไม่พาดผ่านลงมาทางตอนล่าง ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าร่องความกดอากาศต่ำจะเคลื่อนตัวลงมาในพื้นที่ตอนล่างในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม 2559

นายทองเปลว กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในสี่เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ วันที่ 8 กันยายน 2559 มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 4,963 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำมากกว่าปี 2558 ประมาณ 2,900 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 16% ของปริมาณน้ำใช้การของ 4 เขื่อนหลัก อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าในปีนี้เขื่อนภูมิพลยังคงมีปริมาณน้ำใช้การอยู่ในเกณฑ์น้อย เพียง 11% เท่านั้น ทั้งนี้ในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม 2559 ร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน กรมชลประทาน จึงได้กำหนดพื้นที่เป้าหมาย เพื่อให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง คาดว่าจะสามารถเติมน้ำลงในสี่เขื่อนหลักได้ประมาณ 800 ล้านลบ.ม. ในจำนวนนี้จะเป็นปริมาณน้ำที่เติมลงในเขื่อนภูมิพล ประมาณ 300-400 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะทำให้สถานการณ์น้ำใช้การได้ในเขื่อนภูมิพลดีขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image