ส.เอสเอ็มอีไทย จี้ ‘บิ๊กตู่’ ฉีดวัดซีนทางศก. 9 เข็มรับเปิดประเทศใน 120 วัน
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยว่า ภายใน 120 วันก่อนเปิดประเทศไทยตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศ ในแง่ของภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ อยากให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมด้วย นอกเหนือจากการเร่งกระจายฉีดวัคซีนและเปิดแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ สมาพันธ์ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี สะท้อนถึงสถานการณ์ความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ที่มีกว่า 3.1 ล้านราย ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 70% กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน เป็นหนี้สิน และบางส่วนต้องปิดกิจการชั่วคราว จากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรกถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการระบาดในระลอก3นี้ ที่เจอปัญหาหนักจนต้องปิดกิจการเฉลี่ย 1 แสนรายต่อเดือน ซึ่งตอนนี้ก็ประมาณ 3 แสนรายแล้ว พร้อมกันนี้ ได้เสนอเสนอมาตรการที่เป็นวัดซีนทางเศรษฐกิจ 9 เข็ม โดยฉีด 3 เข็มแรกเร่งด่วน เพื่อป้องการการติดเชิ้อล้มละลาย และหยุดเลือดที่ไหล คือ 1.พักต้น-พักดอก-เติมทุน 2.สินเชื่อ Factoring ใบสั่งซื้อ-ใบกำกับภาษี mSMEs 3.กองทุนประกันสังคม 30,000 ล้านบาท
นายแสงชัย กล่าวว่า ต่อด้วย 3 เข็มสำหรับการฟื้นฟูกิจการ ได้แก่ 1.ร่าง พรบ.กองทุนพัฒนาวิสาหกิจ พ.ศ…….กระทรวงอุตสาหกรรม 2. กองทุนฟื้นฟูเอ็นพีแอล เพื่อการพัฒนาเอสเอ็มอีไทย 3.กองทุนนวัตกรรมเพื่อ mSMEs ไทย และอีก 3 เข็มสำหรับการสร้างความเข็มแข็งและยั่งยืน 1.มาตรการสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจชาติ (Thailand e-Job Platform) 2. mSMEs ชุมชนสร้างสรรค์ (จ้างงงานผู้ว่างงานพัฒนา mSMEs ท้องถิ่น) 3.เฟรนไชส์ไทย สร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันสมาพันธ์ก็ได้นำปัญหาและข้อเสนอเข้าหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประธานกรรมการบริหารสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม( สสว.) และกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
“มาตรการที่สมาพันธ์นำเสนอ หน่วยงานรัฐมีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องการให้เกิดได้จริงและพิจารณาช่วยเหลือโดยเร็ว อย่าง พักหนี้พักดอก และการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ(ซอฟต์โลน) และการใช้หลักทรัพย์ที่เป็นการแสดงว่ามีการซื้อขาย ค้ำประกันถึงการทำธุรกิจอยู่และสามารถหารายได้ได้ในอนาคตเมื่อเปิดดำเนินการ เพียงแต่ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้เร็วขึ้น ภายใน 30 วันเพื่อให้ผู้ประกอบการที่กำลังรอทุนหมุนเวียนที่จะเปิดให้บริการอีกครั้งประมาณ 1 ล้านคนซึ่งในจำนวนนี้กว่า30%กำลังเป็นหนี้เสียและหนีหนี้นอกระบบแล้ว ให้กลุ่มนี้สามารถกลับมามีอาชีพและงานทำต่อไป อีกทั้งหลายหน่วยงานก็มีกองทุนช่วยเหลือแต่ก็เข้าถึงยาก อยากให้ทบทวนระเบียบเหมือนทำโครงการคนละครึ่งรัฐนำเงินช่วยเหลือประชาชนครึ่งหนึ่งเอกชนสมทบจ่ายเองครึ่งหนึ่ง ก็น่าจะปรับใช้กับเอสเอ็มอีรายเล็กๆโดยผ่านกองทุนต่างๆ ขณะที่การพักหนี้ลดหนี้เพื่อเติมเงินในระยะกลางและยาว รวมถึงพักทรัพย์พักหนี้ ลดหนี้ครัวเรือน เรื่องนี้เพียงสั่งการ ก็สามารถทำได้ภายใน 60-120 วัน เป็นต้น เรื่องเหล่านี้เพียงใช้เครื่องมือที่มีอยู่ แต่ขอให้เร็วและรัฐใช้งบช่วยเหลือบางส่วน ปัญหาผู้ประกอบการล่มตายก็จะคลายลง ไปพร้อมกับการเปิดประเทศหลังจากนั้น 1-2 เดือน” นายแสงชัย กล่าว
นายแสงชัย กล่าวว่า สมาพันธ์จะติดตามผลการหารือและการตอบรับของภาครัฐต่อเนื่องทุก 2-4 สัปดาห์ ถึงความคืบหน้าการออกมาตรการช่วยเหลือเร่งด้วนการเข้าถึงแหล่งทุนและลดภาวะว่างงาน และส่งหนังสือซ้ำถึงความเดือดร้อนต่อทุกหน่วยงานต่อเนื่อง ซึ่งสมาพันธ์มีการสำรวจผู้ประกอบการทั่วประเทศถึงความเดือดร้อนและสิ่งที่ต้องการเพื่อประคองธุรกิจ ซึ่งทุกสัปดาห์พบว่าแต่ละพื้นที่จะมีผู้ประกอบการปิดตัวเพิ่มทุกเดือน ดังนั้น การที่นายกรัฐมนตรีประกาศให้เปิดประเทศไทยได้ใน 120 วันถือเป็นสิ่งการสร้างความหวังธุรกิจ และหากยังไม่มีอะไรคืบหน้าหรือไม่มีสัญญาณความช่วยเหลือจากภาครัฐ สมาชิกสมาพันธ์ก็จะเข้าทำเนียบเพื่อขอพบนายกรัฐมนตรีต่อไป
