ซีอีโอ“แอร์เอเชีย”ขอให้เรื่องจบ เผยไม่คิดลงโทษใคร ยันไม่ได้สั่งกราบ ชี้แอร์ฯเสียสละเอง ยกเป็นฮีโร่ รุดบินปลอบครอบครัว

โทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย (ภาพจากhttps://www.facebook.com/tonyfernandes/?fref=ts)

จากกรณีที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์บนสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ถึงประเด็นที่มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปได้เปิดเผยว่า พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินแห่งหนึ่งได้ถูกกดดันจากหัวหน้างานให้ก้มกราบเท้าบุตรของผู้โดยสารหญิงคนหนึ่ง ซึ่งได้กล่าวหาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินว่าไม่ให้เกียรติบุตรของเธอซึ่งเป็นเด็กพิเศษ (ออทิสติก) ขณะเดินทางจากท่าอากาศยานภูเก็ตมายัง ท่าอากาศยานดอนเมืองนั้น

นายโทนี เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นซีอีโอของกลุ่มแอร์เอเชีย ขอแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่จะไม่ย้อนกลับไปถึงต้นสายของเรื่องนี้ที่มาจากเหตุการณ์หลากหลาย และไม่คิดว่าจะต้องลงโทษใครจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่จะใช้บทเรียนครั้งนี้มาปรับปรุง เพื่อการดูแลพนักงานให้ดีกว่าเดิม หากมีคำตำหนิใดๆ ก็ต้องการให้มาลงที่ตนเอง เนื่องจากเป็นผู้บริหารมีหน้าที่ในการออกนโยบายกำกับดูแลการทำงานขององค์กร และพร้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวันนี้(9 กันยายน) จะเดินทางไปหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมกับนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เพื่อพูดคุยปลอบขวัญครอบครัวของแอร์โฮสเตสด้วยตัวเอง เพื่อแสดงความตั้งใจในเรื่องการดูแลพนักงาน ที่ถือเป็นความสำคัญอันดับหนึ่งของกลุ่มแอร์เอเชียด้วย หลังจากที่วันนี้ได้เดินทางไปพบกับพนักงานของไทยแอร์เอเชีย เพื่อยืนยันถึงความตั้งใจในการดูแลพนักงานให้ดีที่สุดแล้ว

“สายการบินไม่มีข้อแก้ตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่คิดจะซ่อนความผิดของตัวเอง เพราะอดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว แต่หลังจากนี้จะนำเรื่องลบมาพลิกสร้างในมุมบวกให้เกิดบริการที่ดียิ่งขึ้น”

นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ เรื่องขวัญกำลังใจพนักงาน ยิ่งมีข่าวในโลกโซเชี่ยลมาก พนักงานรู้สึกไม่ค่อยดี และตนขอยืนยันว่า บริษัทไม่ได้มีคำสั่งให้กราบขอโทษแต่อย่างใด เหตุการณ์เกิดขึ้น เพราะว่าอยู่ในห้อง แล้วพนักงานเองมีความเสียสละ และอยากให้เหตุการณ์จบ เลยกราบขออภัยผู้โดยสาร และผู้โดยสารเองได้รับความพึงพอใจแล้ว และได้กลับมาบินกับเอเชียอีก เราขอยืนยันว่า เราให้ความสำคัญกับพนักงาน การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจริงใจ มีการปกป้องพนักงานทุกคน วันนี้(8 กันยานยน) ตนได้เรียกประชุมกับที่บริษัท ลูกเรือคนดังกล่าว ซึ่งน้องลูกเรือรายนั้นยิ้มได้แล้ว พวกเราทุกคนปรบมือให้ เพราะว่าเป็นการเสียสละ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากตรงนี้ ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนการดูแล หากเกิดเหตุการณ์ระหว่างผู้โดยสารกับพนักงาน จะให้ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์เป็นผู้ประสานงาน จะไม่ให้มีการเผชิญหน้าระหว่างผู้โดยสารกับพนักงาน พนักงานของสายการบิน หากมีเหตุการณ์ และต้องตรวจสอบ บริษัทจะเป็นผู้ตรวจสอบ หากพบความผิดจริง ก็จะต้องดำเนินการลงโทษ แต่ถ้าไม่ผิด เราก็ต้องปกป้องพนักงาน

Advertisement

“เรื่องการขอโทษ เราก็ถามพนักงานว่าคิดอย่างไร พนักงานบอกยินดี ก็เลยไปขอโทษ คือ ไปขอโทษไม่ได้ไปกราบ แต่บังเอิญว่า เหตุการณ์ที่อยู่ในห้องเป็นการกดดันมากกว่า ไม่ได้เป็นการกดดันจากทางบริษัท ยืนยันว่าวันนี้ น้องยิ้มออกแล้ว เธอเป็นฮีโร่ของบริษัท แต่เชื่อว่า ครอบครัวของน้องเองก็เสียขวัญ กำลังใจไปบ้าง ซึ่งทางผมกับคุณโทนี่ จะเดินไปทางบ้านน้องที่ต่างจังหวัด เพื่อกราบขอโทษคุณพ่อ คุณแม่ของน้อง เพื่อแสดงความเสียใจกับเหตุหารณ์ที่เกิดขึ้น เราไม่ได้ทอดทิ้ง เราพร้อมปกป้องพนักงานตลอดเวลา และจากเหตุการณ์นี้ ก็ถือเป็นบทเรียนที่เราจะต้องกลับไปดูเรื่องกฎระเบียบ หากมีข่าวในโลกโซเชี่ยล เราต้องทำอย่างไร วันนี้มีข่าวในโซเชี่ยลว่าคุณโทนี่มาเพื่อเรื่องนี้นั้น มันไม่ใช่ เห็นอยู่ว่าวันนี้มีการแถลงข่าวมอบรางวัลให้นักกีฬาที่ได้รับเหรียญโอลิมปิก แต่เราไม่ได้ปฏิเสธ เรามีการพูดคุยกับพนักงาน และเรื่องนี้ไม่ได้ใหญ่จนต้องถึงขั้นให้คุณโทนี่บินมาจากมาเลเซีย ที่ผมไม่ได้ออกมาพูด เพราะไม่อยากซ้ำเติม ให้มีเรื่องในโลกออนไลน์ต่อไปเรื่อยๆ เพราะสิ่งที่สำคัญสุด คือ กำลังใจของน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ ผมขอให้เรื่องนี้จบ เพราะทั้งน้อง และคู่กรณียิ้มแล้ว แต่สื่อยังไม่จบ”

นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า ภาพรวมการแข่งขันธุรกิจสายการบินราคาประหยัด(โลคอสต์ แอร์ไลน์) ปี 2559 ยังคงดุเดือด โดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคาตั๋วเครื่องบินในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) นี้ เดิมที่ตั้งเป้าหมายจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2-3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่จากสถานการณ์แข่งขันยังคงรุนแรงมากระหว่างสายการบิน ทางบริษัทจึงพยายามทำราคาตั๋วเครื่องบินปีนี้ให้เท่ากับปีที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย(โหลดแฟกเตอร์) ตลอดปีอยู่ที่ 83% แต่ดูแนวโน้มแล้วน่าจะสูงกว่าที่ตั้งไว้ ขณะที่ปี 2560 ภาพรวมธุรกิจของไทยแอร์เอเชีย ยังตั้งเป้าทำให้ดีเท่าปีนี้ เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่สายการบินมีอัตราการเติบโตสูง อย่างไรก็ตาม กรณีที่รัฐบาลปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญอย่างจริงจัง จากการติดตามสถานการณ์ตลาดลูกค้าชาวจีนของสายการบินซึ่งครองสัดส่วน 22% ของยอดผู้โดยสารทั้งหมดของไทยแอร์เอเชีย พบว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะลูกค้าเราแทบจะไม่มีกลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image