ส.อ.ท.พอใจ ‘เปิดประเทศ 120 วัน’ ตรงช่วง ต.ค.-พ.ย. เข้าช่วงจับจ่าย ศก.ฟื้นตัวแน่
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศไทยภายใน 120 วัน ได้สร้างความเชื่อมั่น เกิดความชัดเจน ควบคู่การฉีดวัคซีนและดูแลเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย แต่อาจสับสนอยู่บ้างภายหลังมีผู้บริหารในรัฐบาลระบุว่าต้องนับวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป ไม่ได้นับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน ที่นายกรัฐมนตรีประกาศ แต่ภาพรวมถือว่าสร้างความชัดเจน ทุกฝ่ายมีเป้าหมายร่วมกัน เกิดความหวังว่าคนไทยจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ การเปิดประเทศช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่ประชาชนอยากใช้จ่าย จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และตั้งแต่ต้นปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัว
“ช่วงเวลาเมื่อเปิดประเทศบวกกับไทยมีการฉีดวัคซีน 50% ขึ้นไป จะทำให้ไทยหลุดลิสต์ประเทศเสี่ยง ดึงดูดการท่องเที่ยว ทำให้เม็ดเงินกลับมาให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการ จะเห็นว่าตอนนี้แมสเสจของรัฐบาลในการเปิดประเทศส่งผลดีแล้ว แต่ขอให้รัฐบาลบริหารวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะแพทย์ เจ้าหน้าที่ พร้อมดำเนินการ เพียงแต่วัคซีนต้องเพียงพอ” นายเกรียงไกรกล่าว
นายเกรียงไกรกล่าวว่า ส่วนที่รัฐบาลคลายล็อกให้ร้านอาหารนั่งได้ถึงเวลา 23.00 น. งดการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มวันที่ 21 มิถุนายนนั้น เข้าใจว่าเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร ดูแลมิติเศรษฐกิจ แต่กังวลว่าจะเพิ่มความเสี่ยงในการระบาดของโควิด-19 สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังจากการคลายล็อกคือมาตรการด้านสาธารณสุข ห้ามการ์ดตกเด็ดขาด ไม่มุ่งรับลูกค้าอย่างเดียว ต้องมองผลกระทบให้รอบด้าน ปัจจุบันมีบางร้านที่แอบเปิดให้นั่งเกินที่รัฐบาลกำหนด คือ ไม่เกิน 25%
นายเกรียงไกรกล่าวว่า ล่าสุดเริ่มมีความกังวลจากข่าวการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าของอินเดีย ระบาดในไทยมากกว่า 500 คน ถ้าไม่ระวังอาจเหมือนมาเลเซียที่กลับมาระบาดหนัก ล่าสุดมีแพทย์กังวลว่าถ้าไม่ควบคุมในช่วง 2 เดือนข้างหน้าอาจมีการระบาดหนักเช่นเดียวกับต่างประเทศ ขณะที่ประเทศไทยยังฉีดไม่ถึง 10% จึงน่ากังวล ต้องระวัง
