จับตู้คอนเทนเนอร์ ขน ‘ทุเรียนเวียดนาม’ 18 ตัน สวมสิทธิ ‘ทุเรียนจันทบุรี’ เตรียมส่งออกจีน
เวลา 10.00 น. วันที่ 21 มิถุนายน ชุดเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ จ.จันทบุรี นำโดย พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน รอง ผบช.ภ.3 รรท.ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วย นายวุฒิกร สุขีนัย นอภ.เมือง และ นายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6 (ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 6) นำกำลังบุกเข้าตรวจสอบและจับกุมผู้ประกอบการ ล้งรับซื้อผลไม้ “ลุงตู้-อ๊อด” ภายใน ซ.สระบาปบน พื้นที่หมู่ 10 ต.คลองนารายณ์ อ.เมือง จ .จันทบุรี หลังสืบทราบว่ามีพฤติกรรม นำทุเรียนจากประเทศเวียดนาม มาสวมสิทธิ GAP/GMP เป็นทุเรียนไทย เพื่อส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
จากการตรวจสอบพบ ล้งดังกล่าวมีชื่อรับซื้อมังคุด แต่ในล้งกลับมีทุเรียนคล้ายกับพันธ์หมอนทอง วางกองอยู่เต็มล้ง โดยมีคนงานกำลังทำการบรรจุทุเรียนใส่ลงในกล่องกระดาษ นอกจากนี้ ยังพบมีทุเรียนที่บรรจุกล่อง ถูกจัดเรียงอยู่เต็มตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมมีการปลอมแปลง เปลี่ยนสติกเกอร์ที่ขั้วผลทุเรียน เพื่อใช้สวมสิทธิเป็นทุเรียนไทย เตรียมส่งออกไปยังประเทศจีน
ทั้งนี้ ทุเรียนทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีการนำเข้ามาจากประเทศเวียดนาม ซึ่งจากการตรวจสอบ ทางผู้ประกอบการได้ สำแดงเอกสาร อ้างว่านำมาแปรรูป จำนวน 18 ตัน หรือประมาณ 1 ตู้คอนเทนเนอร์
ขณะที่ นายชลธี นุ่มหนู ผอ.สวพ.6 กล่าวว่า การเข้าจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และการแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีในพื้นที่ว่า พบพฤติกรรมผิดสังเกตของแผงทุเรียนดังกล่าว ที่มีรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ นำทุเรียนมาลงที่ล้ง แทนที่จะมีการนำทุเรียนออก เหมือนกับล้งรับซื้ออื่นๆ ซึ่งจากการตรวจสอบ ทำให้ทราบว่า ทุเรียนที่พบ มีการนำเข้ามาจากประเทศเวียดนามจริง
ทั้งนี้ ด้วยเหตุจูงใจด้านราคาที่ถูกกว่าทุเรียนจันทบุรี โดยทุเรียนเวียดนามราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท แต่หากนำมาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยส่งออก จะขายได้ถึงกิโลกรัมละ 160 บาท ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้ สร้างความเสียหายให้กับชาวสวนทุเรียนจันทบุรี เป็นอย่างมาก ทั้งการถูกสวมสิทธิ GAP และ การทำลายชื่อเสียงทุเรียนคุณภาพของไทย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าของล้งผลไม้ดังกล่าว ในความผิด กฎหมายอาญา ม.271 กล่าวคือ หลอกลวงซึ่งแหล่งกำเนิด สภาพ และคุณภาพสินค้า และ สำแดงเอกสารอันเป็นเท็จ
ทั้งนี้ ได้ตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดจะดำเนินมาตรการคุมเข้ม ในการเฝ้าระวังทุเรียนต่างประเทศ ที่จะเข้ามาสวมสิทธิเป็นทุเรียนไทยเพื่อป้องกัน ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น แม้ในขณะนี้จะเป็นช่วงปลายฤดูแล้วก็ตาม
