โควิด-ห่วงศก. กดใช้จ่ายยูโร 2020 หดตัว 51% แต่ช่วยพยุงจีดีพี 0.3% ในไตรมาส 3

โควิด-ห่วงศก. กดใช้จ่ายยูโร 2020 หดตัว 51% แต่ช่วยพยุงจีดีพี 0.3% ในไตรมาส 3

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงมหกรรมฟุตบอลยูโร 2020 จากการสำรวจประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,200 ราย ระหว่าง 15-18 มิถุนายน 2564 พบว่า เมื่อถามค่าใช้จ่ายช่วงฟุตบอลยูโร 2020 เทียบกับการใช้จ่ายปกติ ส่วนใหญ่ 51% ระบุจะใช้จ่ายลดลง และใช้เงินลดลง 38.2% ส่วนอีก 41.4% ระบุใช้จ่ายเท่าเดิม เพียง 7.6% ระบุใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และใช้เงินเพิ่ม 22.7% จากค่าอาหาร/เครื่องดื่ม ค่าอินเตอร์เน็ต และค่าไฟฟ้า ซึ่งกว่า 30% ระบุการแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันกระทบต่อการใช้จ่ายลดลง และกว่า 40% มองว่า จึงต้องใช้จ่ายช่วงฟุตบอลยูโร 2020 ลดลง โดยเมื่อเปรียบเทียบการใช้จ่ายในการแข่งขันฟุตบอลระดับโลก พบว่า คาดว่าใช้จ่ายช่วงยูโร 2020 ประมาณ 1.52 หมื่นล้านบาท ลดลง 51.1% เทียบใช้จ่ายบอลโลก 2018 ที่มีใช้จ่าย 1.79 หมื่นล้านบาท และยูโร 2016 ใช้จ่าย 1.86 หมื่นล้านบาท ขณะที่เงินใช้จ่ายนอกระบบเศรษฐกิจ (พนันบอล) คาดมีประมาณ 4.58 หมื่นล้านบาท ลดลง 22.3% เทียบบอลโลก 2018 สะพัด 5.89 หมื่นล้านบาท และยูโร 2016 5.78 หมื่นล้านบาท

“เมื่อรวมเงินใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจและนอกระบบเศรษฐกิจ รวมประมาณ 6.24 หมื่นล้านบาท ลดลง 20.3% เทียบใช้จ่ายบอลโลก 2018 อยู่ที่ 7.83 หมื่นล้านบาท และยูโร 2016 อยู่ที่ 7.65 หมื่นล้านบาท ดูสถิติยูโร2020 เงินใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจพบว่าต่ำสุดในรอบ 14 ปีนับจากที่ทำการสำรวจตั้งแต่ปี 2006 สะท้อนกำลังซื้อและสภาพเศรษฐกิจที่น่าวิตก ส่วนใช้จ่ายเล่นพนักปีนี้เงินต่ำในรอบ 5-6 ปี โดยพบว่าพฤติกรรมเล่นพนันเปลี่ยนจากเดิมสัดส่วน 30% ใกล้กันในเรื่องพนันเพื่อแฟชั่น เพื่อความสนุก และต้องการรางวัล (เงินสดหรือให้เลี้ยงข้าว) แต่ปีนี้กว่า 50% ระบุพนันเพื่อต้องการเงินสด และเป็นการเล่นพนันแบบจริงจังมากขึ้น อีกทั้ง ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนเพิ่มขึ้นจากต่ำกว่า 1,000 บาท/คน เป็น 1,300 บาท/คน แต่พบว่าเล่นพนันยอดต่อนัด 1,352 บาท คาดหวังเงิน 6,672 บาท รวมทุกนัดคาดใช้เงิน 12,813 บาท สำหรับยูโร 2020 อีกทั้งเริ่มเห็นว่าแหล่งเงินนำมาใช้จ่ายจากกู้ยืมและเงินออมมาใช้สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เงินใช้จ่ายในช่วงยูโร2020 จะช่วยกระตุ้นจีดีพีไตรมาส 3 อีก 0.3% และส่งผลต่อจีดีพีทั้งปีนี้ 0.1%” นายธรรรธน์ กล่าว

Advertisement

เมื่อสอบถามการติดตามฟุตบอลยูโร 2020 พบว่า ปีนี้กว่า 50% ระบุติดตามน้อยถึงไม่สนใจ อีก 50% ติดตามเหมือนเดิมและสนใจมากขึ้น โดยติดตามในทุกสื่อ โดยเฉพาะโซเชียลเร็ตเวิร์กสัดส่วนประมาณ 47% และติดตามถ่านทอดสดในทีวีและมือถือเป็นหลัก ส่วนใหญ่ติดตามรอบแรกและรอบชิง ทีมที่เชียร์ 5 อันดับแรก คือ อังกฤษ โปรตุเกส ฝรั่งเศส อิตาลี เบลเยี่ยม ส่วนทีมที่คาดจะได้แชมป์ ฝรั่งเศส โปรตุเกส อิตาลี เยอรมัน และเบลเยี่ยม โดยคาดว่าคู่ชิง อันดับแรก คือ อิตาลี- ฝรั่งเศส อันดับ 2 คือ เบลเยี่ยม-ฝรั่งเศส อันดับ 3 คือ อิตาลี-โปรตุเกส

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image