สบน.เปิดขายพันธบัตร ‘ยิ่งออมยิ่งได้’ ดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.8 และ 1.9% ต่อปี เริ่ม 5 ก.ค. นี้

สบน.เปิดจำหน่ายพันธบัตรรุ่นพิเศษ “ยิ่งออมยิ่งได้” ผ่านวอลเล็ต สบม. วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.80% จ่าย 4 ครั้งต่อปี เริ่ม 5 ก.ค.นี้ ส่วนรุ่นทั่วไปผ่าน 4 ธนาคาร อีก 4 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 1.90% เริ่มจำหน่าย 12 ก.ค. นี้

วันที่ 25 มิถุนายน นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังจะเริ่มจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “ยิ่งออมยิ่งได้” ผ่านวอลเล็ต สบม. บนแอพพลิเคชันเป๋าตัง และจำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย โดยมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนเพื่อบรรเทาผลกระทบ และฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) สำหรับโครงการ เพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและประชาชนต้องการความช่วยเหลือพิเศษ คนละครึ่ง ระยะ 3 (เฟส 3) และยิ่งใช้ยิ่งได้

สำหรับรายละเอียดของพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษรุ่น “ยิ่งออมยิ่งได้” บนวอลเล็ต สบม. วงเงินจำหน่าย 10,000 ล้านบาท รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได เฉลี่ย 1.80% ต่อปี ซื้อได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป (ผู้เยาว์จะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง และไปยืนยันตัวตนพร้อมผู้ปกครองเพื่อกรอกเอกสารให้ความยินยอมฯ ณ สาขาธนาคารกรุงไทยสำหรับการซื้อครั้งแรก) วงเงินตั้งแต่ 100 บาท – 10 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยเป็น 4 ครั้งต่อปี โดยจะจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 5-23 กรกฎาคม 2564 ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเป๋าตังเพื่อลงทะเบียน ยืนยันตัวตน โอนเงินเข้าวอลเล็ต สบม. ผ่านพร้อมเพย์จากทุกธนาคารหรือ ผูกบัญชีธนาคารกรุงไทยเพื่อเตรียมซื้อพันธบัตรได้

โดยรอบนี้ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ลงทุนผ่านวอลเล็ต สบม. ในหลายด้าน ได้แก่ การเพิ่มวงเงิน และจ่ายดอกเบี้ยถี่ขึ้นเป็น 4 ครั้งต่อปี ทำให้สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ สบน. ได้ยกระดับบริการด้านภาษีบนวอลเล็ต สบม. ให้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม โดยนับจากนี้ ผู้ลงทุนไม่ต้องยุ่งยากเก็บเอกสาร การหักภาษี ณ ที่จ่ายทุกรอบการจ่ายดอกเบี้ยเพื่อประกอบการยื่นขอคืนภาษี ณ สิ้นปีอีกต่อไป ท่านสามารถตรวจสอบและดาวน์โหลดได้เองจากวอลเล็ต สบม. ซึ่งระบบจะส่งข้อมูลการหักภาษี ณ ที่จ่ายของผู้ลงทุนไปยังกรมสรรพากรอัตโนมัติจึงไม่จำเป็นต้องเก็บเอกสารดังกล่าว

ส่วนรุ่นยิ่งออมยิ่งได้ วงเงินจำหน่าย 40,000 ล้านบาท ซึ่งจำหน่ายผ่าน 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ทั้งในช่องทางเคาท์เตอร์, อินเทอร์เน็ต แบงก์กิ้ง และ โมบาย แบงก์กิ้ง ของ 4 ธนาคารตัวแทนจำหน่าย วงเงินขั้นต่ำ 1,000 บาทและซื้อได้ไม่จำกัดวงเงินซื้อ จ่ายดอกเบี้ย 2 ครั้งต่อปี และ จำหน่ายพร้อมกันทั้งประชาชนและนิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยหากเป็นผู้เยาว์ต้องมีบัญชีธนาคารตัวแทนจำหน่ายและได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน และจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12-23 กรกฎาคม 2564

Advertisement

นางแพตริเซีย กล่าวว่า โดยวงเงินและรุ่นอายุที่จำหน่ายดังนี้ 1.ประชาชนทั่วไป วงเงิน 35,000 ล้านบาท จำหน่ายรุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.90% ต่อปี และ 2.นิติบุคคลไม่แสวงหากำไรตามที่กระทรวงการคลังกำหนด วงเงิน 5,000 ล้านบาท จำหน่ายรุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.20% ต่อปี

วงเงินรุ่นยิ่งออมยิ่งได้ที่จำหน่ายบนวอลเล็ต สบม. และธนาคารตัวแทนจำหน่ายไม่นับรวมกัน ผู้ลงทุนจึงสามารถลงทุนได้ทั้ง 2 ช่องทาง และกระทรวงการคลังสามารถปรับเพิ่ม/ลดวงเงินของผู้มีสิทธิซื้อทั้ง 2 กลุ่ม ในรุ่นยิ่งออมยิ่งได้ที่จำหน่ายผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่ายได้ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ สบน. ได้แจ้งให้ธนาคารตัวแทนจำหน่ายปรับวิธีการจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ลงทุนสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขและวิธีการซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง

Advertisement

นางแพตริเซีย กล่าวว่า สบน.ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรทั้ง 2 รุ่น ให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนเรื่องความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนอัตราดอกเบี้ยในอนาคตนั้นว่า การกู้เงินของรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นลักษณะอัตราดอกเบี้ยคงที่ ดังนั้นพอร์ตหนี้ที่ผ่านมาคงไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว แต่สำหรับการกู้เงินในอนาคตจะมีต้นทุนที่แพงขึ้นหรือไม่นั้น มันก็มีโอกาสเป็นไปได้ ทั้งนี้ต้องดูสถานการณ์จริง ว่าเมื่อถึงวันนั้นอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปถึงเท่าไร และมีอัตราการเพิ่มขึ้นเร็วขนาดไหน เพราะฉะนั้น เราก็จะบริหารให้ดีที่สุด ตามเครื่องมือที่มีอยู่ และในต้นทุนที่เหมาะสม แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าดอกเบี้ยในอนาคตจะสูงขึ้น เพราะที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยในตลาดค่อนข้างต่ำ แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าเพิ่มสูงขึ้นเท่ากับในอดีตที่ผ่านมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image