คลังเผยแห่เปลี่ยนจาก ‘คนละครึ่ง เฟส 3’ ไป ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ 2.46 แสนคน เล็งเสนอเพิ่มเวาเชอร์

คลังเผยแห่เปลี่ยนจาก ”คนละครึ่ง เฟส 3” ไป “ยิ่งใช้ยิ่งได้” 2.46 แสนคน เตรียมเสนอให้เวาเชอร์ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” จาก 5,000 บาท เป็น 10,000 บาทต่อวัน

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ที่เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 มีประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิเข้าร่วมโครงการจำนวน 28.56 ล้านสิทธิ ซึ่งเมื่อตรวจสอบผู้ลงทะเบียนซ้ำและผู้ลงทะเบียนไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลไม่ถูกต้อง พบว่ามีประชาชนได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 25.42 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้ที่เปลี่ยนมาจากโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 จำนวน 16,427 คนด้วยแล้ว

น.ส.กุลยากล่าวว่า ส่วนโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 ได้สิ้นสุดการให้เปลี่ยนโครงการเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 โดยมีประชาชนทำการลงทะเบียนจำนวน 4.52 แสนคน ซึ่งเมื่อตรวจสอบรายการลงทะเบียนซ้ำและลงทะเบียนไม่สำเร็จแล้ว มีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จจำนวน 4.18 แสนคน ซึ่งรวมถึงผู้ที่เปลี่ยนมาจากโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวน 2.46 แสนคน

น.ส.กุลยากล่าวว่า ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.comได้ จนกว่าจะครบ 4 ล้านคน อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ของทุกวัน จนกว่าจะครบ 31 ล้านคน สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการของรัฐแล้วสามารถลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง

น.ส.กุลยากล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของภาครัฐ และส่งเสริมให้มีการใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ของโครงการในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลังอยู่ระหว่างเตรียมเสนอกระทรวงการคลังเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ในการพิจารณาขยายระยะเวลาใช้จ่ายที่จะได้รับบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เวาเชอร์) จากแต่เดิมสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

Advertisement

น.ส.กุลยากล่าวว่า พร้อมทั้งขยายยอดใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิ อี-เวาเชอร์ต่อวัน จากเดิม 5,000 บาทต่อคนต่อวัน เป็น 10,000 บาทต่อคนต่อวัน ซึ่งการขยายยอดใช้จ่ายดังกล่าวจะเริ่มวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 และจะไม่มีผลในการคำนวณคืน อี-เวาเชอร์ ย้อนหลัง โดยการใช้จ่ายในช่วงวันที่ 1–14 กรกฎาคม 2564 จะจำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิ อี-เวาเชอร์ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวันเท่านั้น และตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 30 พฤศจิกายน 2564 จะจำกัดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดที่จะนำมาคำนวณสิทธิ อี-เวาเชอร์ไม่เกิน 10,000 บาทต่อคนต่อวัน โดยจะยังคงได้รับสิทธิ อี-เวาเชอร์สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคนเท่าเดิม ตลอดระยะเวลาโครงการ

น.ส.กุลยากล่าวว่า ส่วนโครงการเราชนะ กำลังจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายน 2564 จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ยังมีวงเงินสิทธิคงเหลืออยู่ ใช้จ่ายวงเงินสิทธิให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว โดยความคืบหน้าการใช้จ่าย โครงการเราชนะ ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2564 มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิแล้ว รวมทั้งสิ้น 272,805 ล้านบาท มีผู้ได้รับสิทธิในโครงการเราชนะที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์แล้ว จำนวน 26.2 ล้านคน จากจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด 33.2 ล้านคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image