ส.เอสเอ็มอี ชงแผนบรรเทาเดือดร้อน ‘สุชาติ’ เปรยมีลุ้นข่าวดี ‘บิ๊กตู่’ ออกมาตรการช่วยเหลือยาว 6 เดือน
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยภายหลังคณะกรรมการสมาพันธ์ฯเข้าพบนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่กระทรวงแรงงาน ว่าเป็นสัญญาณที่ดี และทางรัฐมนตรีรับฟังแนวทางที่สมาพันธ์ฯนำเสนอ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเอสเอ็มอีและช่วยเหลือในระยะสั้นและกลางที่เกิดจากการประกาศล็อกดาวน์ 30 วัน (กรกฎาคม) ที่กระทบต่อแรงงานก่อสร้าง ร้านอาหาร ร้านบริการ และอาชีพอิสระ ซึ่งแยกเป็นประเด็นคือด้านสาธารณสุข ทางสมาพันธ์ขอให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดเรื่องการตรวจเชิงรุกทุกพื้นที่ คัดแยกรักษา เร่งฉีดวัคซีน และขึ้นทะเบียนกิจการผู้ฉีดวัคซีน ซึ่งทางกระทรวงก็รับปากดูแลเร่งด่วนและให้สมาพันธ์เป็นช่องทางช่วยเหลือรวบรวมกลุ่มเอสเอ็มอีต่างๆ แล้วส่งให้กระทรวงแรงงานดำเนินการต่อไป
นายแสงชัยกล่าวว่า ส่วนประเด็นมาตรการช่วยเหลือ มีข้อมูลตรงกันว่าจำนวนเอสเอ็มอีในระบบประกันสังคมมี 5 ล้านคน ในส่วนนี้ ประกันสังคมเอสเอ็มอีประมาณ 4.5 แสนคน ที่ต้องช่วยเหลือเร่งด่วน ซึ่งสมาพันธ์เสนอให้รัฐบาลออกมาตรการพักชำระหนี้ไม่มีดอกเบี้ยในช่วงล็อกดาวน์ จากนั้นพักหนี้พักดอกเบี้ย 3-6 เดือน เพื่อเป็นการชะลอมูลหนี้เดิมไม่ให้เพิ่มขึ้นช่วงการเปิดทำงานอีกครั้ง พร้อมกับเติมเงินช่วยเหลือ ซึ่งก็เสนอทั้งการให้ธนาคารและรัฐบาลสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ย 50/50 ให้กับธุรกิจ 1-3 เดือน เพื่อลดภาระหนี้ และปรับระเบียบกองทุนประกันสังคมที่มีวงเงินประมาณ 30,000 ล้านบาท ให้สามารถปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีที่ได้ขึ้นทะเบียนและพิสูจน์ได้แล้วว่าได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ แทนการเข้าไม่ถึงโครงการซอฟต์โลนของภาครัฐ และต้องเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมก่อนไตรมาส 4/2564 เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ต่อ หลังจากการเปิดประเทศ และเกิดภูมิคุ้มกันหลังมีการฉีดวัคซีนได้ระดับหนึ่งแล้ว และยกเว้นให้เอสเอ็มอีที่ปิดตัวจากมาตรการล็อกดาวน์และไม่อาจชำระหนี้ได้ตรงเวลาติดเครดิตบูโรหรือถูกขึ้นบัญชีเอ็นพีแอล ในส่วนกระทรวงแรงงาน เสนอให้ชะลอส่งเงินสมทบประกันสังคมสำหรับ 4 กลุ่มนี้ และไม่ถูกปรับหากไม่ได้ส่งได้ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะถูกปรับตั้งแต่ 2-6% ในระยะ 1-3 เดือน
“รัฐมนตรีสุชาติกล่าวกับสมาพันธ์ว่า นายกรัฐมนตรีมีแนวทางที่จะทำโครงการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเพิ่มเติม ในระยะกลาง 6 เดือนต่อเนื่อง เน้นช่วยเหลือฟื้นฟูเอสเอ็มอีและแรงงานอิสระ ซึ่งรายละเอียดอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาของทีมด้านเศรษฐกิจ แต่ได้เร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร็วภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งเราก็หวังเรื่องการพักหนี้ เพิ่มทุน ลดค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า ค่าน้ำค่าไฟ การเข้าถึงแหล่งเงินใหม่ๆ เพื่อให้ธุรกิจไปต่อ ขณะที่หยุดมูลค่าเดิมไว้ก่อน
“ทำให้อย่างไรให้เอสเอ็มอีมีสภาพคล่องเลี้ยงตนเองได้ 3-6 เดือน จะเป็นส่วนช่วยให้เอสเอ็มอีไม่ปิดกิจการเพิ่ม เป็นสิ่งที่เราภาคเอกชนต้องการมากที่สุดในขณะนี้ พอๆ กับกระจายฉีดวัคซีนเพื่อให้กิจกรรมการค้าเปิดได้” นายแสงชัยกล่าว
