หอการค้าไทย หนุน “กองเรือแห่งชาติ” ดันไทยแข่งขันทัดเทียมต่างชาติ

หอการค้าไทย หนุน “กองเรือแห่งชาติ” ดันไทยแข่งขันทัดเทียมต่างชาติ

นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า กรณีรัฐบาลเตรียมจัดตั้งสายเดินเรือแห่งชาตินั้น หอการค้าสนับสนุนการตั้งรูปแบบ กองเรือแห่งชาติ คือ เรือที่เป็นของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย ชักธงไทยบนเรือ ธุรกิจการเดินเรือเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันโดยเสรีกับนานาชาติ ภาครัฐควรเข้ามาสนับสนุนตรงนี้ ให้สามารถแข่งขันเท่าเทียมกับต่างชาติได้ ในเรื่องของสิทธิประโยชน์ทางภาษี กฎระเบียบต่างๆของกรมเจ้าท่า จะต้องมีการปรับปรุงให้ได้มาตรฐานสากล เพราะปัจจุบันกฎระเบียบต่างๆมีความล้าสมัยอย่างมาก ต้องปรับกฎระเบียบให้มีความสอดคล้องกับนานาชาติ ไม่เช่นนั้นเรือสัญชาติไทยจะไม่สามารถไปแข่งขันกับต่างประเทศได้ ปัจจุบันกองเรือไทยมีขนาดเล็กมาก ส่วนแบ่งทางการตลาดก็มีไม่ถึง 10%

ที่ประเทศสิงคโปร์ การบริหารจัดการขนส่งทางเรือ มีการทำเป็นระบบออนไลน์หมดแล้ว ทำงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง ในการขอใบอนุญาตต่างๆ ใช้เวลาเพียง 1-2 วันก็เรียบร้อย แต่ของประเทศไทยใช้เวลา 5-7 วันทำการ ไม่รวมวันหยุด ค่าใช้จ่ายเรือมีการคิดเป็นชั่วโมง ถ้าเรือออกไม่ได้ ติดขัดเรื่องกฎระเบียบ ใบอนุญาต ต่างๆ ก็มีความเสียหายเป็นชั่วโมง อย่างเรือ Aframax คิดค่าเช่าต่อชั่วโมงประมาณ 32,000 บาท ถ้าประเทศไทยทำไม่ได้รวดเร็วแบบสิงคโปร์ บริษัทขนส่งก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเวลาไป

มีหลายบริษัทการเดินเรือ ที่เป็นเจ้าของโดยคนไทย ไปจดทะเบียนบริษัทที่ต่างประเทศแทน อย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ ประมาณกันว่ามีจำนวน 30% ของกองเรือไทย เพราะกฎหมายพาณิชย์นาวี กฎหมายภาษี มีความเป็นมาตรฐานสากล ถ้าประเทศไทยมีการแก้กฎหมายให้เป็นมาตรฐานสากล แล้วให้บริษัทพวกนี้เปลี่ยนมาจดทะเบียนในประเทศไทย รายได้จะเข้าประเทศไทยแทน

โดยทั่วไปค่าระวางเรือ ฝั่งการส่งออก ในสภาวะปกติ จะอยู่ที่ 7% ของมูลค่าสินค้า โดยประมาณ เท่ากับว่าถ้าส่งสินค้าโดยเรือบริษัทไทย ขายสินค้า 100 บาท รายได้ก็จะเข้าประเทศ 100 บาท แต่ถ้าส่งสินค้าโดยเรือบริษัทต่างชาติ รายได้ก็จะเข้าประเทศ 93 บาท อีก 7 บาท ต้องจ่ายค่าระวางให้กับต่างประเทศ ในฝั่งการนำเข้า ค่าระวางเรือในสภาวะปกติ จะอยู่ที่ 4% ของมูลค่าสินค้า โดยประมาณ ถ้าสั่งของ 100 บาท โดยใช้เรือไทยบริษัทไทย ขนส่ง ประเทศไทยจะมีรายได้เข้ามา 4 บาท แต่ถ้าใช้เรือบริษัทต่างชาติ ประเทศไทยจะไม่มีรายได้เข้ามาเลย

Advertisement

การเดินเรือทุกวันนี้ต้องอิงกับ International Maritime Organization (IMO) ซึ่งเป็นองค์กรกำกับการเดินเรือสากล รัฐบาลควรจะตั้งองค์กรกำกับดูแลพาณิชย์นาวี เป็นองค์การมหาชน สังกัดกระทรวงคมนาคม  เพราะตอนนี้ประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานที่จะพัฒนาพาณิชย์นาวีโดยตรง เมื่อก่อนเคยมีสำนักงานส่งเสริมพาณิชย์นาวี ก็โดนยุบหน่วยงานไปเป็นของกรมเจ้าท่า แล้วก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมาก อีกทั้งกฎระเบียบของกรมเจ้าท่ายังมีความล้าสมัยอยู่ อย่างพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 ที่ควรมีการยกร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อให้มีความสอดคล้องกับนานาชาติมากยิ่งขึ้น

“ปัจจุบันประเทศไทยมี บริษัท บทด. จำกัด รัฐบาลถือหุ้น 30% เอกชนกว่า 20 บริษัท ถือหุ้นอีก 70% ปัจจุบันมีเรือ3ลำ ถ้ารัฐบาลจะดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ก็ควรที่จะทำผ่านบริษัทที่ตัวเองถือหุ้นไว้อยู่แล้ว ล่าสุด บริษัท บทด. จำกัด ได้มีการสั่งซื้อเรือน้ำมันขนาดใหญ่ ความยาว 240 เมตร ความจุ 1.05 แสนตัน จะเข้ามาประเทศไทยในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้แล้ว โดยให้บริการขนส่งน้ำมัน กับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างครบวงจร บริษัทเดินเรือของไทย ให้บริการบริษัทน้ำมันของไทย การซ่อมเรือก็ทำที่อู่เรือไทย”นายภูมินทร์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image