เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือน กสิกรฯแนะจับตาผลประชุมกนง.14ก.ย.

แฟ้มภาพ

“เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือน ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยร่วงลง 5% ในสัปดาห์นี้”

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 1 เดือนที่ 34.83 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทเผชิญแรงเทขายในช่วงต้นสัปดาห์ สอดคล้องกับแรงขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ และการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวขึ้นช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ หลังข้อมูลดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด กระตุ้นให้มีแรงเทขายเงินดอลลาร์ฯ ออกมา เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ เช่นเดียวกับทิศทางของสกุลเงิน และ sentiment ของตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชียที่เผชิญแรงขาย หลังธนาคารกลางยุโรปไม่ประกาศ และ/หรือส่งสัญญาณเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่

สำหรับในวันศุกร์ (9 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.61 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ (2 ก.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.60-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในประเทศน่าจะอยู่ที่ผลการประชุมกนง. (14 ก.ย.) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก และเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ตลอดจนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (15 ก.ย.) ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีน อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และยอดค้าปลีก

Advertisement

เงินบาท

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นไทยปรับร่วงลงตามแรงขายของนักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ประกอบกับตลาดหุ้นต่างประเทศก็ร่วงลง หลังผิดหวังกับผลการประชุม ECB ที่ยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,445.28 จุด ลดลง 5.01% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 21.32% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 67,407.54 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 530.91 จุด ลดลง 10.18% จากสัปดาห์ก่อน

ตลาดหุ้นไทยปรับร่วงลงในสัปดาห์นี้ จากความกังวลของนักลงทุน รวมทั้งมีแรงเทขายทางเทคนิค หลังจากที่ดัชนี SET หลุดแนวรับที่สำคัญ ขณะที่ การที่ธนาคารกลางยุโรปไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดัน sentiment ของตลาดหุ้นทั่วโลก และตลาดหุ้นไทย

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (12-16 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,425 และ 1,400 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,460 และ 1,480 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีราคาผู้บริโภค ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน รวมทั้ง การประชุมธนาคารอังกฤษ (BOE)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image