(6 ก.พ.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ตลาดโรงเกลือ มีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาประกอบการค้า และรับจ้างทั่วไปเป็นปกติ และเปิดร้านประมาณ 90 % คงปิดเฉพาะ ร้านที่ขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มีเพียงบางร้านเท่านั้น เช่น ร้านขายเครื่องสำอาง และร้านขายเครื่องหนัง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา ในจังหวัดสระแก้ว ยังไม่ยอมเปิดเผย และยไม่รับสายจากผู้สื่อข่าว จึงไม่ทราบความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในตลาดโรงเกลือแต่อย่างใด คงต้องรอคำแถลงจากอธิบดีดีเอสไอ ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์2559 ที่จะถึงนี้ ส่วนความคืบหน้าในการจับกุมผู้ต้องหาทำร้ายเจ้าหน้าที่และทุบรถยนต์เพิ่มเติมอีกคน ทราบชื่อเล่น ว่า นายจำเริญ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน
ด้านนายโซม อาง ชาวกัมพูชา ที่ทำการค้าอยู่ที่ตลาดโรงเกลือ กล่าวว่า ตอนนี้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยซื้อสินค้าเหมือนแต่ก่อน ขายของไม่ดีเลย ตั้งแต่มีลิขสิทธิ์มาจับ ขายของไม่ดี แต่ค่าเช่า และค่ายามต้องจ่ายทุกเดือน แต่ตอนนี้ชาวกัมพูชารู้สึกกลัวลิขสิทธิ์มาก เพราะถ้าถูกจับจะเสียเงินมาก จึงไม่กล้าเปิดร้าน รายได้จากการขายของไม่มี แต่ค่าห้อง และค่าอะไรอีกมากมาย ก็ยังมาเก็บอยู่ ถ้าเป็นอย่างนี้ชาวกัมพูชา จะลำบากมาก และคนไทยก็ไม่ค่อยซื้อของมากนัก มีคนเดินแต่ไม่มีคนซื้อ
ส่วนนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ตลาดโรงเกลือเป็นตลาดการค้า ที่มีชาวกัมพูชาเข้ามาประกอบการเกือบทุกร้าน และชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ก็มีฐานะไม่ค่อยดี การแก้ปัญหาการขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ทางจังหวัดได้ดำเนินการแก้ไขมานานแล้ว แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป และการแก้ไขปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ใช่แก้ไขได้ง่ายๆ จะต้องมีการประสานกับเจ้าของลิขสิทธิ์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน ซึ่งทางจังหวัดได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และเคยประสานกับเจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อปรึกษาหารือแนวทางแก้ไข แต่เจ้าของลิขสิทธิ์ยังไม่เคยเข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือแต่อย่างใด ประกอบกับตลาดโรงเกลือเป็นตลาดขนาดใหญ่ จะต้องแก้ปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่เกิดผลกระทบกับคนหาเช้ากินค่ำ ซึ่งชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในตลาดโรงเกลือ ส่วนใหญ่ก็มีฐานะยากจนอยู่แล้ว ดังนั้นจะทำอย่างไรเพื่อให้คนไทยและคนกัมพูชาที่อาศัยอยู่ตมแนวชายแดน มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันตลอดไป ส่วนเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญหา นั้น เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย จะต้องดำเนินการกฎหมายและดำเนินการแก้ไขต่อไป
ทั้งนี้ นับเป็นบรรยากาศล่าสุดหลังจากที่ มีชาวกัมพูชา กว่า 400 คน รุมล้อมทำร้ายและพังรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ขณะเข้าจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ที่บริเวณตลาดโรงเกลือเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 ต่อมาเจ้าหน้าที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุ ได้ 2 คน มี นายสมโอน กง อายุ 22 ปี และ นายสัยหา ยิม อายุ 23 ปี ซึ่งศาลจังหวัดสระแก้ว พิพากษาจำคุกคนละ 3 เดือน โดยไม่รอลงอาญานั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ชาวกัมพูชา ที่ประกอบการค้าในตลาดโรงเกลือ ต่างพากันปิดร้าน เดินทางเข้าไปในประเทศกัมพูชา ตั้งแต่เย็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559 จนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 ด้วยความกลัวถูกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ บุกจับกุมสินค้าลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะอาคารสีฟ้า ที่อยู่ติดกับฝั่งกัมพูชา ทางด้านทิศตะวันออกของตลาดโรงเกลือ และในช่วงบ่าย ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ชาวกัมพูชาเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาในตลาดโรงเกลือ เพื่อเปิดร้านทำการค้าตามปกติ คิดเป็นร้อยละ 70 ส่วนร้านในอาคารสีฟ้า ยังปิดอยู่ แต่ก็มีเจ้าของร้านมาเฝ้าอยู่หน้าร้าน เพื่อสังเกตการณ์
