‘ททท.’ ยัน ‘สมุย’ พร้อมเปิดรับต่างชาติ 15 ก.ค.นี้ เล็งดึงกลุ่มเป๋าหนัก ใช้จ่ายเพิ่ม 1 แสนบาทต่อคน
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการ ด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ยังยืนยันว่า สมุย เกาะพะงันและเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ภายใต้โครงการสมุย พลัส โมเดล อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นการเดินหน้าต่อจากภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ที่เปิดรับต่างชาติ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ททท.ได้หารือร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่ ซึ่งได้รายงานการเตรียมพร้อมไว้เกือบทุกด้านแล้ว อาทิ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อยู่ในระดับต่ำมากทั้ง 3 เกาะดังกล่าว และบางวันก็ไม่พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น สายการบินบางกอกแอร์เวย์ ได้จัดเที่ยวบินพิเศษรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางจากต่างประเทศ เข้ามาเปลี่ยนที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อบินเข้าเกาะสมุย วันละ 3 เที่ยวบิน เริ่มวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 นี้ รวมถึงมีสถานประกอบการได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย (เอสเอชเอพลัส) แล้วกว่า 44 แห่ง แบ่งเป็นโรงแรม 41 แห่ง ร้านอาหาร 1 แห่ง บริการรถขนส่ง 1 แห่ง และศูนย์การค้า 1 แห่ง โดยกลุ่มประเทศเป้าหมายเป็นยุโรป ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูง หรือเป็นการดึงตลาดต่างชาติแบบลักชัวรี่ ไพรเวท ทัวริส เนื่องจากคาดว่าการใช้จ่ายจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 100,000 บาทต่อคนต่อทริป จากเดิมประมาณ 50,000 บาทต่อคนต่อทริป
“ความพร้อมในการเปิดสมุย รับต่างชาติ ตอนนี้ถือว่ามีมากแล้วจริงๆ เพราะหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (เอสโอพี) ทำไว้แล้ว และได้รับคำชมจากศบค.ด้วย รวมถึงคนในพื้นที่มีไม่มากนัก ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนครบ 70% แล้ว บวกกับไม่ต้องรอประกาศในราชกิจจาฯ ใหม่ จึงคาดว่าสามารถดำเนินการได้เร็วกว่า” นายฉัททันต์ กล่าว
นายฉัททันต์ กล่าวว่า เรื่องที่ยังต้องติดตาม และดำเนินการเพิ่มเติม เป็นเรื่องระบบในการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา คือ 1.ระบบการจองที่พักยังไม่ชัดเจน เพราะการเข้าพักโรงแรมในสมุย จะต้องเป็นโรงแรมที่ได้มาตรฐานเอสเอชเอพลัส และโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (เอแอลคิว) ซึ่งต่างชาติจะต้องจองโรงแรมที่พัก และชำระเงินล่วงหน้า ทั้งในส่วนของค่าโรงแรม และค่าตรวจหาเชื้อโควิดด้วย หลังจากนั้นกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จึงจะสามารถออกหนังสือรับรองการเดินทางเข้าไทย (ซีโออี) ให้กับต่างชาติได้ ทำให้ระบบที่ยังไม่ชัดเจน นักท่องเที่ยวไม่สามารถจองโรงแรมได้ กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่สามารถออกซีโออีให้ต่างชาติได้เช่นกัน ส่วนนี้จึงต้องเร่งดำเนินการทำระบบให้แล้วเสร็จ เพราะมีเงื่อนไขเวลาที่กระชันชิดเข้ามาร่วมด้วย 2.โรงแรมในสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า จะต้องมีระบบในการจัดตั้งตัวกลาง เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และความปลอดภัยของแต่ละโรงแรม เหมือนที่ภูเก็ตมีระบบชาพลัส เมเนอเจอร์ (SHA Plus Manager) 3.แผนเผชิญเหตุหากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ หรือเกิดการระบาดซ้ำอีกครั้ง และ 4.แผนคัดกรองผู้เข้า-ออกพื้นที่ โดยเฉพาะคนไทย ทั้งนักท่องเที่ยว แรงงาน หรือคนทั่วไป ซึ่งสมุยมีความง่ายในการตรวจสอบ เพราะต้องเดินทางผ่านเรือและเครื่องบินเท่านั้น ทำให้ต้องขอดูรายละเอียดและเงื่อนไขในการตรวจคัดกรองการเข้าพื้นที่ของคนไทย ซึ่งมีหลายประเทศต้นทางให้ความสำคัญกับส่วนนี้ เพราะกังวลว่า หากปล่อยให้พลเมืองเดินทางมาแล้ว จะติดโควิดกลับไปหรือไม่ จึงต้องการความมั่นใจเพิ่มเติม
นายฉัททันต์ กล่าวว่า รูปแบบการผู้เดินทางมาเที่ยวเกาะสมุยใน 3 วันแรก จะต้องอยู่ในบริเวณโรงแรม วันที่ 4-7 จึงจะสามารถออกจากพื้นที่โรงแรมได้ แต่ต้องอยู่ภายในเกาะสมุย โดยช่วง 7 วันแรกต้องพักในโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (เอแอลคิว) เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมี 9 แห่ง รวม 254 ห้อง หลังจากนั้นในวันที่ 8-14 นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือไปท่องเที่ยวหรือพักในเกาะพะงัน และเกาะเต่าได้ แต่ต้องเป็นโรงแรมที่ได้มาตรฐานเอสเอชเอพลัสเท่านั้น เนื่องจากมีการระบุไว้ในหลักเกณฑ์การปฎบัติตัวในการเข้าประเทศ ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยส่วนนี้มีวิธีในการพิจารณาอนุมัติมาตรฐานเอสเอชเอพลัส อาทิ ต้องเป็นผู้เสียภาษีถูกต้อง หลังจากนั้นต้องรอนำโรงแรมเข้าระบบ เพื่อให้นักท่องเที่ยวจองในระบบได้ โดยเบื้องต้นการเที่ยวในเกาะพะงันและเกาะเต่า จะเป็นรูปแบบการเที่ยวแบบวันเดย์ทริป หรือไม่พักค้างคืน เพราะคาดว่าน่าจะนำโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานเอสเอชเอพลัสเข้าระบบไม่ทันภายในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ แต่จะเร่งให้เริ่มในเดือนสิงหาคมนี้แทน
นายฉัททันต์ กล่าวว่า สำหรับกรณีการเปิดภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ และมีผู้ติดเชื้อโควิดเข้าร่วมในวันแรกของการเปิดเกาะ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสให้กับผู้ใกล้ชิดนั้น ในส่วนของการเปิดสมุย พลัส โมเดล เบื้องต้นจะหารือร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อหาแนวทางป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวซ้ำอีกครั้ง
