เตือนหอการค้าทั่วประเทศ รับมือพิษโควิดระลอกใหม่ลามหนัก ยืดเยื้อเกิน 2 สัปดาห์
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า จากการประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจเบื้องต้นจากการกำหนดปรับปรุงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพิ่มจาก 10 จังหวัดเป็น 13 จังหวัด และมีการเพิ่มมาตรการเพื่อให้ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็นในหลายๆ กิจการ คาดว่าผลกระทบจะเพิ่มจากเดิมที่ประมาณไว้ 2,000-3,000 ล้านบาทต่อวัน เป็นวันละ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อวัน ถ้าคำนวณผลกระทบ 1 เดือน ก็จะประมาณ 90,000-120,000 ล้านบาท เพิ่มเติมจากผลกระทบเดิม ซึ่งต้องลองดูว่าผลกระทบนี้อาจจะต้องประมาณการเพิ่มขึ้น ทั้งผลกระทบที่อาจจะมากกว่านี้ลามไปพื้นที่อื่น และระยะเวลาที่อาจจะล็อกดาวน์นานกว่านี้ ปัญหานี้คงไม่จบแค่ 2 อาทิตย์ตามประกาศที่ออกมา
“หอการค้าจะเร่งทำความเข้าใจกับสมาชิกให้เตรียมวางแผนล่วงหน้าเพื่อรับมือ เดินหน้าปฏิบัติตามมาตรการที่ออกมาเพื่อบรรเทาสถานการณ์การระบาดที่เป็นอยู่ขณะนี้”
นายสนั่นกล่าวว่า เบื้องต้น มาตรการที่ออกมาเยียวยาควรต้องมีการขยายเรื่องพื้นที่สีแดงเข้มที่ยกระดับมาตรการ และพิจารณาถึงกลุ่มอาชีพที่ต้องถูกจำกัดการดำเนินการมาเพิ่ม ตรงนี้ต้องพิจารณาเพิ่มเติมเพราะผลกระทบไม่เพียงแต่พื้นที่ที่ปิดเท่านั้น สำหรับเงินกู้ 5 แสนล้าน ที่เป็นทั้งงบ เยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจ นั้น จำเป็นต้องเร่งนำมาใช้ เพราะถ้ารัฐจำกัดการเคลื่อนย้ายไม่ให้บางส่วนมาประกอบธุรกิจได้ แล้วประชาชนจะมีรายได้ ได้อย่างไร ถ้าจำเป็นต้องกู้เพิ่มก็ต้องกู้เพื่อประคองเศรษฐกิจในระหว่างล็อกดาวน์ ตอนนี้การรักษาชีวิตของประชาชนและระบบสาธารณสุขต้องมาก่อน แล้วเราค่อยมาเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูประเทศต่ออีกที
ประเด็นถัดมา การเตรียมรับมือการระบาดหากเกิดการระบาดในสถานประกอบการโดยเฉพาะภาคการผลิตเพื่อการส่งออก ที่ยังเป็นเครื่องจักรสำคัญในการเดินเศรษฐกิจประเทศไทยตอนนี้ ซึ่งตอนนี้ หลายๆ ธุรกิจได้มีการเตรียมการรับมือไว้อยู่แล้ว จากการระบาดระลอกที่ผ่านมา
แต่การระบาดครั้งนี้คาดว่าจะรุนแรงและยืดเยื้อมากกว่า แผนที่เตรียมไว้ต้องนำมาทบทวน และปรับใช้ตามสถานการณ์จริง ทั้งแนวทาง Bubble & Seal การตรวจเชิงรุกในสถานประกอบการ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่ติดขัดและต้องดำเนินมาตรการนี้อย่างเข้มงวด และมีการจัดสรรวัคซีนมาให้กลุ่มนี้เพื่อรักษาภาคการผลิตส่วนนี้ให้ได้
