ส.อ.ท. เผย ยอดผลิตรถยนต์ มิ.ย. ทำได้ไม่เต็มที่ จากการขาดชิ้นส่วน แต่ยอดส่งออกยังเพิ่ม 65.88% ปรับเป้า ผลิตรถยนต์ปี 64 เพิ่มเป็น 1.6 ล้านคัน หลังส่งออกดีขึ้น
วันที่ 22 กรกฎาคม นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมิถุนายน 2564 มีทั้งสิ้น 134,245 คัน เพิ่มขึ้น 87.22% จากเดือนมิถุนายน 2563 จากฐานต่ำของปีก่อนเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) แต่ลดลง 4.23% จากเดือนพฤษภาคม 2564 เพราะผลิตได้ไม่เต็มที่จากการขาดชิ้นส่วนในบางรุ่น จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 844,601 คัน เพิ่มขึ้น 39.34% จากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนจำนวนการผลิตเพื่อส่งออกเดือนมิถุนายน 2564 ผลิตได้ 74,574 คัน เพิ่มขึ้น 74.18% จากเดือนมิถุนายน 2563 ส่วนตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 486,237 คัน เพิ่มขึ้น 40.37% จากปี 2563 ระยะเวลาเดียวกัน ในขณะที่จำนวนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดือนมิถุนายน 2564 ผลิตได้ 59,671 คัน เพิ่มขึ้น 106.55% จากเดือนมิถุนายน 2563 และเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563 ผลิตได้ 358,364 คัน เพิ่มขึ้น 37.97% จากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563 ด้านรถจักรยานยนต์ เดือนมิถุนายน 2564 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 216,671 คัน เพิ่มขึ้น 141.2 % จากเดือนมิถุนายน 2563 ส่วนยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,261,176 คัน เพิ่มขึ้น 43.73% จากปี 2563
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมิถุนายน 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 61,758 คัน เพิ่มขึ้น 10.40% จากเดือนพฤษภาคม 2564 และพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 15.07% จากฐานต่ำปีที่แล้วจากการระบาดของโควิด-19 ยอดขายอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกสามที่รุนแรงมากขึ้น มีการจำกัดการทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ และรถยนต์บางรุ่นผลิตไม่พอกับความต้องการเพราะขาดชิ้นส่วน ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 161,105 คัน เพิ่มขึ้น 28.86% จากเดือนมิถุนายน 2563 และเพิ่มขึ้น 13.55% จากเดือนพฤษภาคม 2564 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 รถยนต์มียอดขาย 373,193 คัน เพิ่มขึ้น 13.57% จากปี 2563 ในระยะเวลาเดียวกัน ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 872,279 คัน เพิ่มขึ้น 19.17% จากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563
ด้านการส่งออกเดือนมิถุนายน 2564 การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนมิถุนายน 2564 ส่งออกได้ 83,022 คัน เพิ่มขึ้น 65.88% จากเดือนมิถุนายน 2563 เพราะยอดขายรถยนต์ในประเทศของประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้น อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย ยุโรป และเพิ่มขึ้น 4.46% จากเดือนพฤษภาคม 2564 โดยมีมูลค่าการส่งออก 49,278.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68.54% จากเดือนมิถุนายน 2563 สำหรับมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 78,566.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.35% จากปี 2563 โดยตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2564 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 447,893.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.99% จากปี 2563
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายการผลิตรภถยนต์ปี 2564 จำนวน 1,500,000 คันนั้น เป็นเป้าหมายขั้นต่ำ ที่ได้รวมเรื่องการขาดแคลนิ้นส่วน และ การล็อกดาวน์จากสถานการณ์โควิด-19 แล้ว แต่จากการประเมินสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ที่เริ่มมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ทำให้การส่งออกนั้นดีขึ้น ประเทศคู่ค้ามียอดจำหน่ายรถยนต์เติบโต อาทิ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย ยุโรป จึงปรับหมายเป้ายอดยอดส่งออกรถยนต์ปี 2564 เพิ่มจากเดิม 750,000 คัน เป็น 800,000-850,000 คัน ส่วนยอดขายรถยนต์ปี 2564 ภายในประเทศคงเดิมที่ 750,000 คัน ทำให้ยอดการผลิตรถยนต์ปี 2564 จากเดิม 1,500,000 คัน เป็น 1,550,000-1,600,000 คัน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการปิดโรงงาน บริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ชั่วคราวนั้น เกิดจากการที่มีคนงานผู้ผลิตชิ้นส่วน ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงต้องทำการปิดชั่วคราว 14 วัน มีผลทำให้ไม่มีชิ้นส่วนที่จะส่งให้กับบริษัทแห่งอื่นๆ ด้วย ทำให้การผลิตหยุดชะงัก บริษัท โตโยต้า จึงได้ตัดสินใจที่จะปิดโรงงานชั่วคราว ส่วนนี้ทำให้เกิดความกังวล เพราะคาดว่าในเดือนมิถุนายนน่าจะผลิตรถยนต์ได้ในจำนวนมาก แต่ผลิตได้แค่ 134,000 กว่าคัน เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วน ชิปเซมิคอนดักเตอร์ และชิ้นส่วนที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ยังอยู่ในช่วงล็อกดาวน์
