‘วิทยุการบิน’ คาดการณ์รายได้ต่ำกว่ารายจ่าย 6.6 พันล้าน รับขาดสภาพคล่อง เดินหน้าหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้น

‘วิทยุการบิน’ คาดการณ์รายได้ต่ำกว่ารายจ่าย 6.6 พันล้าน ยอมรับขาดสภาพคล่อง เดินหน้าหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้น

จากกรณีที่ผู้ประกอบการสายการบินภายในประเทศ 7 สายการบิน ได้รวมกันยื่นข้อเสนอและขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการขอสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) พร้อมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการขึ้น-ลงอากาศยาน รวมถึงค่าจอด-ค่าปรับออกไปก่อน เพื่อให้สายการบินอยู่ได้ เพราะขณะนี้ประสบปัญหาเรื่องกระแสเงินสดอย่างมาก

ในส่วนของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) คือเรื่องการจัดเก็บค่าบริการการเดินอากาศ โดย บวท.ขอชี้แจงถึงมาตรการต่างๆ ที่ บวท.ได้ให้ความช่วยเหลือสายการบิน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาล รวมถึงสถานะทางการเงินของ บวท. และแนวโน้มสถานการณ์เที่ยวบินในประเทศไทย

นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. ชี้แจงถึงผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมานับตั้งแต่ต้นปี 2563 และมีแนวโน้มการระบาดที่รุนแรงขึ้น ทำให้ภาครัฐต้องดำเนินการเพื่อควบคุมการระบาดอย่างรัดกุม โดยได้ออกมาตรการในการเดินทางอย่างเข้มงวด ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารและปริมาณเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศลดลงเป็นอย่างมาก

Advertisement

นายทินกรกล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจการบิน รวมถึงหน่วยงานด้านธุรกิจการบินในประเทศ ต่างประสบปัญหาภาวะวิกฤติทางการเงิน โดยที่ผ่านมา บวท.ได้ให้ความร่วมมือภาครัฐในการให้ความช่วยเหลือสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด -19 ตามมติคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ดังนี้

1.ตั้งแต่เดือนมีนาคม-กันยายน 2563 บวท.ได้ยกเว้นค่าปรับจากการชำระล่าช้าของสายการบิน ผู้ถือหุ้นสำหรับค่าบริการควบคุมจราจรทางอากาศ และกลุ่มลูกค้าธุรกิจการบินสำหรับค่าเช่า และค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์สื่อสาร ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 24 ล้านบาท

2.ตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม 2563 ได้ปรับลดค่าบริการการเดินอากาศลง 50% สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ และ 20% สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 500 ล้านบาท

Advertisement

3.ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 บวท.เรียกเก็บค่าบริการสำหรับเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศเต็มจำนวน โดยเรียกเก็บเพียง 50% ก่อน และขยายเวลาชำระหนี้ในส่วนที่เหลืออีก 50% ออกไปเป็นระยะเวลา 6 รอบบิล ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของ บวท. ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ บวท.ได้ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินอย่างเต็มกำลังความสามารถ ภายใต้สภาพคล่องที่มีอยู่อย่างจำกัด โดยปัจจุบัน บวท.เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากรายได้หลักของ บวท.มาจากการให้บริการการเดินอากาศ เมื่อปริมาณเที่ยวบินลดลงอย่างต่อเนื่อง รายได้จึงลดลงเช่นกัน

ทั้งนี้ แม้ว่า บวท.จะมีมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายในองค์กร ที่ไม่กระทบต่อภาคความปลอดภัยในการให้บริการแล้วก็ตาม แต่รายได้ก็ยังคงไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

จากสถิติการให้บริการจราจรทางอากาศเที่ยวบินพาณิชย์ ที่ทำการบินเข้า-ออก ผ่านน่านฟ้าไทย ตั้งแต่ ตุลาคม 2563-มิถุนายน 2564 มีปริมาณเที่ยวบินลดลงร้อยละ 56 และหากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ปริมาณเที่ยวบินลดลงสูงถึงร้อยละ 72 จากตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้รายได้ของ บวท.ลดลงเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ บวท.ได้คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินในปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม 2563-กันยายน 2564) ว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินลดลงจากปี 2563 ถึงร้อยละ 56 ทำให้ปี 2564 บวท.จะมีรายได้ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายกว่า 6,600 ล้านบาท

และจากสถานการณ์การระบาดที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง บวท.คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบไปถึงปี 2565 ประกอบกับสายการบินมีการชำระหนี้เฉลี่ยเพียงร้อยละ 52 ของหนี้ที่ครบกำหนดชำระ จึงทำให้ปัจจุบัน บวท.ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องเช่นกัน บวท.จึงไม่มีความสามารถให้ความช่วยเหลือสายการบินตามมาตรการช่วยเหลือต่อไปได้ โดย บวท.จำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินกู้ระยะสั้นเพิ่มเติม เพื่อเสริมสภาพคล่องในปี 2564-2565 ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัด ตามกรอบแผนบริหารหนี้ที่ได้รับอนุมัติ

ทั้งนี้ ตามมติ กบร. ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 ปัจจุบัน บวท.อยู่ระหว่างรอความชัดเจนเรื่องการขอรับเงินสนับสนุนรัฐวิสาหกิจ (Public Service Obligation : PSO) เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ในขณะเดียวกัน บวท.ยังคงดำเนินการตามมาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย และรักษาวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image