“กรมอุทยาน” ดันแคมเปญ “Mercy is Power” ชวรคนไทยให้คำมั่น ไม่ซื้อไม่ครอบครองเครื่องรางจากงาช้าง-เสือ

“กรมอุทยาน” ดันแคมเปญ “Mercy is Power” ชวรคนไทยให้คำมั่น ไม่ซื้อไม่ครอบครองเครื่องรางจากงาช้าง-เสือ

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้จัดทำแคมเปญ ‘Mercy is Power’ เพื่ออนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่า กระตุ้นเตือน รวมทั้งเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมของผู้บริโภคต่อการใช้เครื่องรางที่ทำจากงาช้างและเสือ จะสร้างแรงหนุนให้การค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายลดน้อยลงได้

ในปัจจุบันการครอบครองผลิตภัณฑ์จากงาช้างนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย เว้นแต่ผู้ครอบครองจะขึ้นทะเบียนภายในปี พ.ศ. 2558 หรือก่อนหน้านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะรัฐบาลไทยได้ยกระดับพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งการยกระดับนี้รวมไปถึงการเพิ่มบทลงโทษทั้งจำและปรับ

นางดารารัตน์ วีระพงษ์ ผู้จัดการโครงการอาวุโส TRAFFIC กล่าวว่า แนวทางที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์ช้างและเสือในระยะยาวได้นั้นคือ การใช้เครื่องมือเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและพฤติกรรม (Social and Behavioral Change) ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย โดยแคมเปญ ‘Mercy is Power’ ได้ใช้พลังผลักดันทางสังคม และการเล่าเรื่องอย่างสร้างสรรค์มาใช้เพื่อเปลี่ยนความเชื่อที่ว่า การพรากชีวิตมาทำเป็นเครื่องรางสามารถทำให้โชคดีและเสริมบารมี เรารู้สึกตื่นเต้นที่แคมเปญนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน รวมถึง พระภิกษุ ดารา ผู้มีชื่อเสียงในโซเชียลมีเดีย รวมทั้งองค์กรพันธมิตรต่างๆ ที่ร่วมกันผลักดันให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ

TRAFFIC รายงานว่า เฉพาะในประเทศไทย จากปี พ.ศ. 2543 ถึงปี พ.ศ. 2561 มีคดีเกี่ยวกับเสือที่จับได้จำนวน 49 คดี และยึดเสือของกลางได้มากถึง 369 ตัว และจนถึงปี พ.ศ. 2563 ได้มีการบุกจับเพิ่มขึ้นอีก 6 ครั้งและสามารถยึดเสือของกลางได้เพิ่มอีก 24 ตัว นอกจากนี้ TRAFFIC ยังได้มีการติดตามการค้างาช้างออนไลน์และพบว่า ในการสำรวจเพียงแค่ 5 วันในปี พ.ศ. 2562 ประเทศไทยมีการขายผลิตภัณฑ์จากงาช้างจำนวนกว่า 1,000 รายการ

Advertisement

นายเรอโนด์ เมเยอร์ ผู้แทน UNDP ประจำประเทศไทยกล่าว กล่าวว่า บรรทัดฐานทางสังคมที่มีต่อเครื่องรางจากงาช้างและเสือนั้นเปลี่ยนแปลงไป คนจำนวนมากเริ่มเข้าใจว่า การซื้อหรือการครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือส่งผลลบต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ การลดความต้องการครอบครองผลิตภัณฑ์สัตว์ป่าสามารถยุติการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายและช่วยอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ได้ การเปิดตัวแคมเปญ ‘Mercy is Power’ โดยความร่วมมือกับ TRAFFIC และกรมอุทยานฯ สามารถตอกย้ำแนวคิดเชิงบวกนี้ และหวังว่าจะสามารถยุติการค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายได้ตลอดไป

แคมเปญนี้ยังได้นำเสนอคลิปวิดีโอสั้น 3 ชุด ที่เผยแพร่ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียทั้ง Facebook และ YouTube โดยคลิปสั้นนั้นมีสาระเตือนใจจากพระมหานภันต์ สนฺติภทฺโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยร่วมให้คำมั่นว่า จะไม่ซื้อและไม่ครอบครองเครื่องรางจากงาช้างและเสือ โดยสามารถดาวน์โหลดยันต์อิเล็กทรอนิกส์ได้จาก www.mercyispower.com และใช้แฮชแท็ก #MercyisPower #ยัน(ต์)ว่าดียัน(ต์)ว่าได้บุญ #ละเว้นชีวิตช้างเสือคือพลัง

เหล่าผู้มีชื่อเสียงและรักษ์สิ่งแวดล้อมมากมายกว่า 20 คน เช่น คุณเชอรี่-เข็มอัปสร, คุณแพทริเซีย กู๊ด, คุณนุ่น-ศิรพันธ์, คุณท็อป-พิพัฒน์, คุณวรรณสิงห์ ประเสริฐกุลและคุณมารีญา พูลเลิศลาภ ได้เข้าร่วมและสนับสนุนแคมเปญนี้ผ่านทางสื่อออนไลน์ของแต่ละท่าน ซึ่งจะเริ่มขึ้นก่อนวันเสือโลกในวันที่ 29 กรกฏาคม 2564 ที่จะถึงนี้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image