คิดเห็นแชร์ : ‘หก’ไม่ตกธีม

คิดเห็นแชร์ : ‘หก’ไม่ตกธีม

คิดเห็นแชร์ : ‘หก’ไม่ตกธีม

“ควรทำอย่างไรเมื่อพอร์ตที่มีอยู่ไม่ตอบโจทย์การสร้างความมั่งคั่ง”

เชื่อว่าหลายท่านกำลังพบกับคำถามนี้อยู่

ช่วงวิกฤต WFH จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะศึกษาแนวการลงทุนใหม่ ซึ่งผมนำ “หกธีมการลงทุน” ที่ทั่วโลกเชื่อว่าเป็นอนาคต มาแชร์ให้ทุกคนเห็นทางเลือกในการปรับพอร์ตบนโจทย์การสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวไปด้วยกัน

Advertisement

ธีมวิวัฒนาการบริโภค (Consumer Evolution)

เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของประชากรณ์ทั่วโลกหลังพบกับข้อจำกัดในการใช้ชีวิตช่วงโควิดบนเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด

ธุรกิจอย่าง Digital Leisure ไปจนถึง Space Tourism อาจแย่งส่วนแบ่งตลาดจากธุรกิจสันทนาการหรือท่องเที่ยวปัจจุบันได้มากขึ้นหลังจากนี้

จุดเด่นของธีม คือมีความเกี่ยวข้องกับสังคมสูง ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมักได้รับการยอมรับรวดเร็วและสร้างรายได้ได้ทันที

ธีม Industrial Revolution หรืออุตสาหกรรม 4.0

แรงหนุนหลักไม่ได้มาจากแค่การเปิดรับเทคโนโลยี แต่รวมไปถึงเศรษฐกิจที่เข้าสู่โหมด De-globalization และราคาสินแร่ตั้งต้นปรับตัวขึ้นได้ในช่วงวัฏจักรเศรษฐกิจรอบใหม่

กลุ่มการลงทุนหลักจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่สามารถประยุกต์ใช้นวัตกรรมการผลิตใหม่เช่น Automation/Robotics หรือ 3D Printing

วิกฤตโควิดส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของธีมเร่งตัวขึ้น พร้อมกับสร้างข้อได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ แทบทุกประเทศจึงจำเป็นต้องปฏิวัติอุตสาหกรรมเพื่อความอยู่รอด

ธีมพลังงานสะอาดและยั่งยืน (Sustainable Energy)

เป็นกลุ่มธุรกิจที่ภาครัฐทั่วโลกกำลังผลักดันมากที่สุดเป้าหมายหลักคือลดการใช้พลังงานจาก Fossil Fuels เปลี่ยนมาเป็น Clean และ Green Energy

แม้จะไม่ใช่ธีมที่สามารถกำไรได้ทันที แต่ปัจจุบันมีเงินทุนสนับสนุนจากภาครัฐเร่งให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่อง เป็นธีมที่มีระยะเวลาในลงทุนคงเหลืออีกหลายวัฏจักร พร้อมกับมีตลาดขนาดใหญ่ที่รอให้ disrupt

ธีมเทคโนโลยี 6.0

เป็นการพัฒนาก้าวต่อไปของการสื่อสารที่มีพื้นฐานตั้งต้นจาก Internet

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธีมนี้จะอยู่ในกลุ่ม Communication เช่น Social Media การเติบโตคาดว่าจะมาจาก Colud Computing และ Information Sharing

แม้จะเป็นธีมที่ไม่ใหม่ แต่ในทางกลับกันธุรกิจเหล่านี้สามารถทำกำไรได้ด้วยความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจที่ต่ำ เริ่มธุรกิจใหม่ได้ด้วยเงินลงทุนที่น้อย จึงมักมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา

ธีมการเงินไร้ตัวกลาง (FinTech)

ปัจจุบันเป็นมากกว่า Finance หรือ Tech เพราะหลอมรวม E-Commerce และ Market Place ต่าง ๆ เข้าด้วยกันแทบจำกันไม่ได้แล้วว่าเราเดินเข้าธนาคารหรือใช้เงินสดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

นวัตกรรมที่โดดเด่นในธีมนี้คือ Decentralization หรือ Blockchain และ Crypto Asset หลังวิกฤตคาดว่าจะมีบทบาททั้งในเรื่องการใช้จ่ายและการลงทุน

ธีมนวัตกรรมสุขภาพ (Healthcare Innovation)

เป็นกลุ่มธุรกิจที่ทั่วโลกให้ความสำคัญมากที่สุดจากวิกฤตโควิดครั้งนี้

มีทั้งธุรกิจที่ทำกำไรได้ทันทีอย่าง Medical Tech ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของสังคมผู้สูงอายุไปถึงคนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก

ผสมกับ Biotech และ Geonomic ที่พึ่งได้รับการยอมรับในวงกว้าง เป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้ศึกษาธุรกิจนี้ตั้งแต่เริ่มต้น

ทั้งหกธีมนี้สามารถเป็นการลงทุนระยะยาวหลังวิกฤตได้ แต่นักลงทุนควรต้องเข้าใจการลงทุนไม่ใช่แค่รู้จักชื่อธีม

ผมเริ่มด้วยการวิเคราะห์ธีมทั้งหกด้วย 60 Passive ETF ประกอบด้วยหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ 200 ถึง 700 บริษัททั่วโลกต่อธีม พบว่าธีมเหล่านี้มีพฤติกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง

1.แม้จะเป็นการลงทุนในธีมกลุ่มเดียวกับ แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันเสมอ

ธีมที่นักลงทุนควรศึกษาให้ลึกก่อนลงทุนคือวิวัฒนาการบริโภคและนวัตกรรมสุขภาพ

ทั้งสองธีมมีความซับซ้อนสูงมาก เช่น การลงทุนใน ETF ธีมการบริโภคธีมเดียว อาจประกอบได้ด้วยมากกว่า 10 อุตสาหกรรมปัจจุบันรวมกัน

หรือแม้จะเป็นธีมสุขภาพที่ตั้งเป้าหมายเดียวกัน แต่การแบ่งสัดส่วนลงทุนในแต่ละบริษัทก็ทำให้ผลตอบแทนแตกต่างกันมาก (อย่างที่เราเห็นมาแล้วกับเรื่องวัคซีนโควิด)

โดยรวม นักลงทุนจึงต้องเตรียมรับความเสี่ยงเฉพาะบริษัทมากยิ่งขึ้น

2.ธีมทั้งหกมีความผันผวนสูงเหมือนกันแต่เกิดจากเหตุผลที่แตกต่าง

ในช่วงปีที่ผ่านมา ทุกธีมมีความผันผวน (Standard Deviation) 30-40% ต่อปี แต่ธีมพลังงานสะอาดจะเคลื่อนไหวตามตลาดและมีอ่อนไหวกับดอกเบี้ย ธีมที่มีธุรกิจที่ทำกำไรได้แล้วจะขยับตามมุมมองวัฏจักเศรษฐกิจ หรือธีมการเงินดิจิทัลก็จะมีความผันผวนของ Crypto Asset เข้ามาผสม

นักลงทุนจึงต้องฝึกตีความระยะเวลา (Duration) ของแต่ละธีมให้ออก และต้องมองโอกาสที่มากกว่าการสร้างรายได้บนธุรกิจปรกติประกอบด้วย

3.แม้จะกระจากการลงทุนหลายอุตสาหกรรมหลายประเทศ แต่มีความเสี่ยงตั้งต้นติดสูง

ชัดเจนที่สุดคือธีมเทคโนโลยี ไม่ว่าพุ่งเป้าไปสู่ฐานลูกค้าทั่วโลกแค่ไหน 85% ของบริษัทก็ยังจดทะเบียนอยู่ในตลาดสหรัฐ

เช่นเดียวกับ 90% ของธีม Healthcare Innovation ก็ยังถูกจัดอยู่ในอุตสาหกรรมบริการทางการแพทย์ในสหรัฐ

หรือธีมอุตสาหกรรม 4.0 ก็จะมีความสัมพันธ์กับ MSCI All Country World Index สูง ตามการกระจายตัวไปในหลายประเทศทั่วโลก

หมายความว่าแม้จะเป็นเรื่องใหม่แต่ความรู้หรือพอร์ตปัจจุบันเราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ นักลงทุนสามารถนำธีมเหล่านี้มาลงทุนแทนที่อุตสาหกรรมเดิมได้ทันที เพียงแค่ต้องเข้าใจความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

ในเดือนถัดไปผมจะทยอยแนะนำการลงทุนหกธีมนี้ให้เราได้รู้จักกันมากขึ้นครับ

จิติพล พฤกษาเมธานันท์
นักกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ยูโอบี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image