ไฟไหม้อาคารเรียนเก่า 2 ชั้น อายุกว่า 40 ปี วอด!
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมจริง แตะกระโทก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้นำชุมชน มีเหตุไฟไหม้อาคารเรียน โรงเรียนบ้านนาศรีนวล ต.บุโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จึงประสาน รถดับเพลิง อบต.ใกล้เคียง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยในพื้นที่ ร่วมกันระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารเรียน 2 ชั้น ไฟลุกไหม้ไปทั่วอาคารแล้ว โดยมีรถน้ำดับเพลิงของ อบต.บุโพธิ์ และรถดับเพลิง อบต.ใกล้เคียง ระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง แต่ไฟได้ไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วเพราะเป็นอาคารไม้ ทำให้อาคารเรียน 2 ชั้น เสียหายทั้งหมด ใช้เวลากว่า 1 ชม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่โครงสร้าง วัสดุ อาคารทั้งหลังถูกไหม้วอด รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนบนชั้นสองเสียหายทั้งหมด
สอบถาม น.ส.อรุณรัต โสตะวง อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่ 6 ต.บุโพธิ์ ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า บ้านของตนเองอยู่ใกล้อาคารเรียนดังกล่าว ช่วงเกิดเหตุเห็นเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วจากชั้น 2 ของตัวอาคารเรียน จึงรีบแจ้งทางผู้ใหญ่บ้านทราบ จากนั้นตนและชาวบ้านรีบมาช่วยกันเอาน้ำมาฉีดสกัด เพื่อสกัดไฟไม่ให้ลุกลามมาบ้านตนเอง วินาทีที่เกิดเหตุตนเองรู้สึกกลัวมาก กลัวว่าไฟจะลามไหม้บ้านของตนเองและของชาวบ้านใกล้เคียง
นายสมัย พรมจันทา อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านใหม่ไทยเจริญ หลังรับแจ้งจากลูกบ้านก็รีบมาดู เห็นเพลิงกำลังไหม้ ซึ่งเห็นจุดเริ่มมาจากสายไฟบริเวณชั้น 2 ของตัวอาคารที่เป็นไม้ จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง และไฟก็โหมลุกไหม้ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว ไม่ถึง 10 นาที รถดับเพลิงหลายคันก็มาถึง รีบระดมสกัดเพลิง แต่เอาไม่อยู่ เรื่องจากช่วงเกิดเหตุมีกระแสลมแรง ประกอบกับเป็นอาคารเก่าที่เป็นไม้ และยังมีหนังสือต่างๆ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ก่อนเพลิงจะไหม้อาคารวอดทั้งหมด
ด้าน นายศักดิ์ศิริ บุตรเกิง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนาศรีนวล ซึ่งมาดูที่เกิดเหตุ เล่าว่า อาคารเรียนหลังที่ถูกไฟไหม้นี้ เป็นอาคารเรียน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน จะเป็นห้องเรียนของชั้นอนุบาลเป็นหลัก และห้องเก็บของอื่นทั้งหมด 12 ห้อง ซึ่งอาคารหลังนี้สร้างตั้งแต่ปี 2522 มีอายุ 42 ปี
ถือว่าเป็นอาคารไม้เก่าแก่คู่โรงเรียน ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงปิดเรียนตามมาตการป้องกันโควิด แต่ช่วงกลางวันและกลางคืนก็มีคุณครูเวรที่มาเฝ้าเวรอยู่ตลอด แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง และยังประเมินความเสียหายยังไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าชอร์ตหรือไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนสาเหตุที่แท้จริง เจ้าหน้าที่วิทยาการ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จะเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
