ศูนย์ฉีดวัคซีนอมตะซิตี้ ชลบุรี ลุยฉีดแรงงาน ม.33 เร่งตั้ง รพ.สนามช่วยจังหวัดระยอง

ศูนย์ฉีดวัคซีนอมตะซิตี้ ชลบุรี ลุยฉีดแรงงานตาม ม.33 เร่งตั้งรพ.สนามช่วยจังหวัดระยอง

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า อมตะได้ร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และจังหวัดชลบุรีในการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับบุคลากรภาคอุตสาหกรรมผู้ประกันตนมาตรา 33 ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี โดยมีการทยอยฉีดวัคซีนให้พนักงานในสถานประกอบการอย่างต่อเนื่องตามสัดส่วนที่ได้รับการจัดสรรจากภาครัฐ เพื่อขับเคลื่อนภาคการผลิตที่มีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกภาคส่วนโดยเฉพาะนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ

“การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาอมตะช่วยเหลือชุมชนโดยรอบนิคมฯทั้งการแจกของอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะอุปกรณ์ทางการแพทย์และน้ำดื่มเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนภาครัฐในการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อำนวยความสะดวกในการจัดสถานที่จัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนในนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี หนึ่งในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ล่าสุดการฉีดวัคซีนให้แรงงานดังกล่าวคืบหน้าต่อเนื่อง แต่จะได้ตามเป้าหมายทั้งหมดยังจำเป็นต้องประสานกับภาครัฐในการจัดหาวัคซีนให้เพียงพอประกอบด้วย” นายวิบูลย์กล่าว

นายวิบูลย์กล่าวว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดระยองล่าสุดพบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและสถานพยาบาลเริ่มมีไม่เพียงพอรับกับผู้ป่วยใหม่ ดังนั้น กนอ. และอมตะซิตี้ ระยอง ได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรมให้เช่า และอาคารคลังสินค้าให้เช่า ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมฯ เตรียมส่งมอบอาคารโรงงานเพื่อจัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม ให้แก่จังหวัดระยองได้บริหารจัดการสำหรับใช้รองรับผู้ป่วยต่อไปโดยคาดว่าจะสามารถเปิดรับผู้ป่วยได้เร็วๆ นี้

Advertisement

นางบุปผา กวินวศิน ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี กล่าวว่า จากการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นผลดีแก่ภาคอุตสาหกรรมที่จะยังคงมีศักยภาพในการผลิตเพื่อขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนของไทยได้อย่างต่อเนื่องแล้วยังขยายผลส่งถึงชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมด้วยเพราะประชากรภาคอุตสาหกรรมมีการพักอาศัยอยู่ในชุมชนโดยรอบ หากประชากรเหล่านี้ได้ฉีดวัคซีนอย่างต่ำ 90% ก็จะสามารถสร้างภูมคุ้มกันหมู่ในชุมชน 70% ได้ทันที

“นิคมอุตสาหกรรมเปรียบเหมือนบ้านหลังใหญ่ที่มีประชากรอยู่รวมกันจำนวนมากและทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หากมีผู้ติดเชื้อจะสามารถแพร่กระจ่ายได้อย่างรวดเร็ว และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม เราจึงมองการดูแลทั้งแรงงานในนิคมและชุมชนเพื่อถือว่าเป็นบ้าน  ตรงนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ กนอ. หวังให้การดูแลแรงงานในนิคมจะส่งผลให้ชุมชนที่อยู่โดยรอบนิคมฯเกิดความปลอดภัยร่วมกับสถานประกอบการ สามารถจะดำเนินกิจการได้อย่างปลอดภัยสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง” นางบุปผากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image