‘การบินพลเรือน’ ปลดล็อก เพิ่มจำนวนสายบิน รับส่งผู้โดยสารเข้า-ออก ‘สนามบินอู่ตะเภา’ บรรเทาการเดินทาง ปชช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ลงนามในประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดสรรเส้นทางบินให้กับผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนในระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พ.ศ.2564 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2564
ใจความสำคัญคือ หลังจากมีการขยายเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 อีกทั้งมาตรการจากรัฐบาลที่มุ่งลดและจำกัดการเคลื่อนย้าย การเดินทางของบุคคล และการดำเนินกิจกรรมในระบบขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด เพื่อลดการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน รวมทั้งคำสั่ง ศบค.เรื่องพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง
กพท.ได้ออกประกาศ เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการสนามบิน และผู้ดำเนินการเดินอากาศในเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ฉบับที่ 3 ส่งผลให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนไม่สามารถปฏิบัติการบินรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกจากสนามบินดอนเมือง หรือสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดง) ตั้งแต่ 21 ก.ค.64 เป็นต้นมา
ดังนั้น เพื่อประโยชน์สาธารณะในการส่งเสริมให้มีการใช้บริการขนส่งทางอากาศที่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ต้องการเดินทางทางอากาศเพื่อกลับภูมิลำเนา หรือปฏิบัติภารกิจอันจำเป็น
รวมทั้งช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนให้สามารถดำรงสถานะทางการเงินและประชาชนต่อไปได้ กพท.จึงเห็นควรสนับสนุนและเปิดโอกาสให้มีการปฏิบัติบินรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกจากสนามบินอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ซึ่งเป็นการทำการบินในเส้นทางย่อย
อย่างไรก็ตาม ผู้อำนวยการ กพท.จะพิจารณาอนุญาตให้มีผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนแบบประจำมีกำหนดที่ทำการบินรับส่งผู้โดยสารเข้าหรือออกจากสนามบินอู่ตะเภา ระยอง พัทยา ได้มากกว่า 3 ราย
ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนแบบประจำมีกำหนดที่ได้รับการจัดสรรเส้นทางบินย่อยตามวรรคหนึ่ง จะทำการบินในเส้นทางดังกล่าวได้จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2564
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2564 หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
