ไปต่อไม่ไหว ‘พิพัฒน์’ จำใจเบรกเที่ยวข้ามทุกเกาะ หลังยอดติดเชื้อพุ่งไม่หยุด
เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้พิจารณาชะลอรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวข้ามเกาะ (Island Hopping) ภายใต้สูตร 7+7 ออกไปก่อน โดยเป็นการปรับรูปแบบให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ครบ 7 วัน และได้รับการตรวจหาเชื้อครบ 2 ครั้งแล้ว สามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง จ.ภูเก็ต กับพื้นที่นำร่องอื่น 3 พื้นที่ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า), จ.กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เลย์) และ จ.พังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) และต้องเดินทางท่องเที่ยวและพักค้างคืนในพื้นที่นำร่องต่างๆ ให้ครบ 7 วันเพิ่มเติม
หลังจากนั้นจึงจะสามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ เพื่อท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศไทย โดยกำหนดเริ่มต้นในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ แต่จำเป็นต้องชะลอไปก่อน เพราะยังไม่ผ่านการพิจารณาจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และภายในสัปดาห์นี้ยังไม่มีการประชุมของ ศบค.ด้วย
“พบผู้ติดเชื้อในภูเก็ตและสมุย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจกระทบกับการดำเนินโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และสมุย พลัส โมเดลได้ จึงจำเป็นต้องชะลอรูปแบบการเที่ยวข้ามเกาะ 7+7 ไว้ก่อน เพื่อประเมินสถานการณ์การระบาดในพื้นที่ และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มขึ้นมากหรือน้อยอย่างไร” นายพิพัฒน์กล่าว
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ส่วนกรณีจังหวัดภูเก็ตออกคำสั่งยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการห้ามบุคคลและผู้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทเข้าจังหวัดภูเก็ต ทั้งทางบก (ด่านตรวจท่าฉัตรไชย) ทางน้ำ (ท่าเรือ) ทุกท่าในจังหวัดภูเก็ต และช่องทางภายในประเทศ (ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต) ที่ประกาศออกมาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3-16 สิงหาคมนี้ ยกเว้นบางกรณีหรือผู้ที่มีความจำเป็นจริงๆ อาทิ ขนส่งยา
โดยเบื้องต้นประเมินว่า การยกระดับความเข้มข้นในการควบคุมดังกล่าว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แน่นอน เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางผ่านเครื่องบินตรงจากต่างประเทศเข้ามายังภูเก็ตโดยเฉพาะ ไม่ได้เข้ามาผ่านเที่ยวบินภายในประเทศ ทำให้แม้ปัจจุบันหลายสายการบินในประเทศได้ยุติการให้บริการชั่วคราวตามประกาศแล้ว แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังสามารถเดินทางเข้ามาได้อยู่
ประกาศคุมเข้มดังกล่าวนั้น เน้นคุมเข้มการเดินทางเข้าและออกของคนในพื้นที่ และคนต่างถิ่นที่เดินทางเข้าพื้นที่ด้วย ซึ่งจะต้องทำการแยกข้อมูลให้ชัดเจน โดยเฉพาะตัวเลขการติดเชื้อโควิดจากคนในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ
