วันสุดท้าย ผู้สมัคร ‘ม.40’ รีบจ่ายสมทบ รอรับ 5 พัน-ลูกจ้าง ม.33 ดีเดย์ รับเงิน 4 ส.ค.นี้

วันสุดท้ายผู้สมัครประกันตน ‘ม.40’ รีบจ่ายสมทบรอรับ 5 พัน-ลูกจ้าง ม.33 ใน 10 จว.ล็อกดาวน์ ดีเดย์รับเงิน 4 ส.ค.

วันที่ 31 กรกฎาคม นับถอยหลังอีก 4 วัน ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และผู้ประกอบการ 9 ประเภทกิจการ ใน 10 จังหวัดสีแดงเข้มที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์ของรัฐบาล จะได้รับเงินเยียวยา ส่วนผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่สมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 รีบจ่ายเงินสมทบงวดแรกภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เพื่อจะได้สิทธิรับเงินเยียวยา 5 พันบาท

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้จ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ตามมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ใน 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสั่งการให้เร่งรัดการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนไม่ให้เกินวันที่ 6 สิงหาคม

“ดังนั้นจะเริ่มทยอยจ่ายตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมนี้ เนื่องจากระบบการโอนเงินผ่านพร้อมเพย์สามารถดำเนินการได้วันละ 1 ล้านบัญชีเท่านั้น ขณะที่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยามีจำนวน 2.87 ล้านคน ต้องใช้เวลาถึง 3 วัน จึงสามารถโอนได้ครบภายในกำหนดเวลาวันที่ 6 สิงหาคม ตามเจตนารมณ์ของนายกฯ และจะทยอยโอนครั้งต่อไปให้กับนายจ้าง”นายสุชาติ กล่าว

ด้าน น.ส.ลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า วิธีการจ่ายเงินเยียวยาสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 2,500 บาท จะโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น ส่วนนายจ้างจะได้รับการเยียวยา ตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้างไม่เกิน 200 คน โดยนายจ้างบุคคลธรรมดา จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชนเช่นกัน ส่วนนายจ้างสถานะนิติบุคคล จะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อนิติบุคคลนายจ้าง

Advertisement

“สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 และ มาตรา 40 ในขณะนี้ ยังไม่มีกำหนดการจ่ายเงินเยียวยา โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำรายละเอียดกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อเสนอ ครม.อีกครั้งหนึ่ง และจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง” โฆษก สปส. กล่าว

น.ส.ลัดดา กล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ สปส. เปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม พบว่ามีผู้ประกอบอาชีพอิสระให้ความสนใจสมัครเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 แล้ว สถานะความเป็นผู้ประกันตนจะสมบูรณ์ตามกฎหมายทันทีเมื่อท่านชำระเงิน จึงขอให้ผู้ที่สมัครขึ้นทะเบียนแล้ว รีบจ่ายเงินสมทบงวดแรกให้ทันภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ โดยชำระเงินผ่านช่องทางที่สะดวก ฟรีค่าธรรมเนียมทุกช่องทาง และขอให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทุกคน ทั้งรายเดิม และที่สมัครใหม่ โปรดชำระเงินสมทบอย่างต่อเนื่องทุกๆ เดือน เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมธนาคารไทยประสานกับธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อเตรียมพร้อมการโอนเงินเยียวยาประกันสังคมเข้าบัญชีธนาคารผ่านระบบพร้อมเพย์ ให้นายจ้างและผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกปิดกิจการตามประกาศคำสั่งของ ศบค. โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะโอนให้ผู้ประกันตนตาม มาตรา 33 ในวันที่ 4-6 สิงหาคม เฉพาะ 10 จังหวัด จำนวนผู้ประกันตนกว่า 2.87 ล้านราย ส่วนอีก 3 จังหวัดที่ถูกล็อกดาวน์ภายหลัง ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และ พระนครศรีอยุธยา จะแจ้งการโอนเงินให้ทราบอีกครั้ง

Advertisement

ทั้งนี้ นายจ้างและผู้ประกันตน มาตรา 33 ที่จะได้รับเงินเยียวยา ทาง สปส.เปิดให้ตรวจสอบสิทธิบนเว็บไซต์ของ สปส. โดยผู้ประกันตนที่มีบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับบัตรประชาชนจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคารเพื่อเปิดบัญชีใหม่ หรือลงทะเบียนพร้อมเพย์ด้วยบัตรประชาชนใหม่ หากยังไม่ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนสามารถดำเนินการผูกได้ด้วยตนเองผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนคารที่มีบัญชีอยู่ ทั้งโมบาย์ แอพพลิเคชัน, อินเตอร์เน็ต แบงกิ้ง และตู้เอทีเอ็ม ส่วนกรณียังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก สามารถเปิดบัญชีผ่านทางออนไลน์แล้วลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยาได้เลย โดยต้องลงทะเบียนพร้อมเพย์ก่อนวันที่ 4 สิงหาคมนี้ กรณีสงสัยว่าอยู่ในข่ายได้รับสิทธิหรือไม่ สามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเยียวยาได้ที่ https://www.sso.go.th หรือสอบถามที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image