‘พิพัฒน์’ ไม่หวั่นโควิดบุกเกาะ เดินหน้า ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ ย้ำไม่มีคำว่าหยุดรับต่างชาติ

‘พิพัฒน์’ ไม่หวั่นโควิดบุกเกาะ เดินหน้า ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ ย้ำไม่มีคำว่าหยุดรับต่างชาติ

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ยังยืนยันเดินหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อย่างต่อเนื่อง แม้พบผู้ติดเชื้อโควิดในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ประกาศยกระดับมาตรการควบุคมการเข้าจังหวัดเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงเพิ่มข้อปฏิบัติเข้มงวดขึ้นด้วย โดยเฉพาะการควบคุมการเดินทางเข้าของคนในประเทศที่อาศัยในจังหวัดอื่นนอกภูเก็ต เพราะที่ผ่านมาพบว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นคนในประเทศเป็นหลัก โดยประเมินจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดภูเก็ต ช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม 2564 พบว่า วันที่ 18–24 กรกฎาคม พบผู้ติดเชื้อจำนวน 74 คน, วันที่ 25-31 กรกฎาคม พบผู้ติดเชื้อจำนวน 252 คน รวมพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 326 คน ภายในระยะเพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 311 คน โดยหลังจากวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ขอประเมินผลว่า หลังจากจังหวัดภูเก็ตยกระดับมาตรการควบคุมเข้มข้นขึ้นแล้ว สามารถควบคุมการระบาดได้ดีมากน้อยเท่าใด และจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป ซึ่งส่วนนี้ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และคนในพื้นที่เมืองภูเก็ตเป็นหลัก

“ขณะนี้ยังไม่มีคำว่าจะหยุดเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เนื่องจากในช่วง 1 เดือนที่ดำเนินโครงการมานั้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้ว 14,055 คน พบว่าในจำนวนนี้ผู้มีเชื้อมีเพียง 32 คนเท่านั้น โดยเป็นการพบว่าติดเชื้อจากภายนอก ไม่มีการติดเชื้อจากภายในประเทศทั้งสิ้น รวมถึงเมื่อพบว่ามีต่างชาติติดเชื้อ ก็นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาทันที ทำให้ไม่มีต่างชาติติดเชื้อสามารถออกไปแพร่เชื้อให้กับคนในจังหวัดได้ โดยมาตรการคุมเข้มการเข้าภูเก็ต จะเน้นควบคุใคนในประเทศเป็นหลัก ไม่ได้ส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แน่นอน” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในกรณีรุนแรงที่ต้องถึงขั้นต้องปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เบื้องต้นกำหนดหลักๆ คือ ต้องพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่ระบาดเป็นวงกว้าง 3 อำเภอ 6 ตำบล เกิดคลัสเตอร์ใหม่ 3 กลุ่มใหญ่ หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้ โดยเฉพาะความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย หากพบว่ามีผู้ติดเชื้อครองเตียงโรงพยาบาล ตั้งแต่ 80% ในศักยภาพรวมของจังหวัด ซึ่งข้อมูลล่าสุดพบว่า อัตราส่วนการครองเตียง มีจำนวนเตียงรวม 694 เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยครองเตียง 249 เตียง หรือคิดเป็น 36% ของจำนวนเตียงทั้งหมด ซึ่งอยู่ในระดับที่รับได้ และหากจำนวนครองเตียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะพิจารณาปรับแผนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทันที แต่จะไม่ปล่อยให้สถานการณ์รุนแรงถึงระดับการครองเตียงใกล้ 80% แน่นอน สำหรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เดิมคาดว่าทั้งไตรมาส 3/2564 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 1 แสนคน แต่ขณะนี้มองว่าหากในเดือนสิงหาคม โควิดยังคงระบาดหนักแบบนี้ เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 แสนคน อย่างไรก็ไม่น่าไปถึง เพราะแม้จะพยายามนำเสนอภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในสายตาต่างชาติ ให้มองแยกออกมาจากภาพรวมประเทศไทย แต่สายตาที่มองมาก็เป็นภาพรวมทั้งประเทศอยู่ดี

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวข้ามเกาะ (Island Hopping) ภายใต้สูตร 7+7 ที่เป็นการปรับรูปแบบให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ครบ 7 วัน และได้รับการตรวจหาเชื้อครบ 2 ครั้งแล้ว สามารถท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่าง จ.ภูเก็ต กับพื้นที่นำร่องอื่น 3 พื้นที่ ได้แก่ จ.สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า), จ.กระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล) และ จ.พังงา (เขาหลัก เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่) และต้องเดินทางท่องเที่ยวและพักค้างคืนในพื้นที่นำร่องต่างๆ ให้ครบ 7 วันเพิ่มเติม หลังจากนั้นจึงจะสามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ เพื่อท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศไทย ขณะนี้จำเป็นต้องชะลอไปก่อน เพื่อติดตามสถานการณ์การระบาดโควิด ให้สามารถควบคุมและคลายตัวได้ก่อน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ที่กำหนดไว้เดิม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image