“จุรินทร์” เดินหน้าประกันรายได้ข้าวเปลือกปี 3 ชงนบข.อนุมัติงบชดเชย 8 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 3 หมื่นล้าน ชี้ผลผลิตดี-ราคาแผ่ว
ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 ผ่านประชุมผ่านระบบ Zoom กับหน่วยงานรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักเกณฑ์จัดทำโครงการประกันรายได้ข้าวเปลือก 5 ชนิดต่อเนื่องปีที่ 3 และจ่ายชดเชยราคาส่วนต่างให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนระหว่างเดือนเมษายน-ตุลาคม 2564 เฉพาะภาคใต้ช่วง 16 มิถุนายน 2564 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 และกำหนดจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างเดือนตุลาคม 2564ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 เฉพาะภาคใต้ช่วงมีนาคม-พฤษภาคม 2565 และคงราคาประกันรายได้เท่ากับโครงการประกันรายได้ปีที่ 2 ซึ่งโครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกปีที่ 3 ได้ขอกรอบวงเงินประกันรายได้ 8 หมื่นล้านบาท และมาตรการคู่ขนานในการพยุงราคาข้าวเปลือกอีก 8 พันล้านบาท สำหรับมาตรการคู่ขนาน 3 ส่วนคือส่วนแรกช่วยเหลือชาวนา 1,500 บาทต่อตันสำหรับชะลอการขายข้าวออกสู่ตลาดพร้อมในช่วงเก็บเกี่ยว ส่วนที่สองช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ 3% สำหรับสหกรณ์หรือโรงสีที่รับซื้อข้าวจากชาวนาในโครงการ ส่วนที่สามช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ไม่เกิน 6 เดือนสำหรับผู้ส่งออกที่เร่งรับซื้อข้าวเพื่อส่งออก สำหรับการส่งออกข้าว ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ เร่งรัดเจรจาขายข้าวรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) อาทิ จีน ที่มีสัญญาเอ็มโอยู่คงค้าง 2.8 แสนตัน รวมถึงบังคลาเทศและอินโดนีเซีย
“กรอบวงเงินปีที่ 3 ที่เพิ่มจากปีที่ 2 ที่ได้ขอกรอบวงเงินประกันรายได้ 4.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากประเมินตามสถานการณ์ปริมาณผลผลิตฤดูกาลใหม่ปี 2564/65 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.58-5.0% หรือผลผลิตรวม 26 ล้านตันข้าวเปลือก และแนวโน้มราคาข้าวที่อ่อนตัวลง ตรมข้อมูลกรมการค้าภายในราคาเปลือกเจ้าปัจจุบันตันละ 7.7-8 พันบาท ลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 8.7-9.4 พันบาท โดยจะนำเสนอขอความเห็นชอบที่ประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี.เห็นชอบต่อไป ซึ่งยังคงเดินหน้าประกัยรายได้ปีที่ 3 สำหรับ 5 พืชหลัก ซึ่งในวันที่ 11 สิงหาคมนี้จะประชุมกำหนดหลักเกณฑ์ปาล์มน้ำมันและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ “ นายจุรินทร์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้ข้าวเปลือกปีที่ 2 ฤดูผลิต2663/64 ได้ใช้งบประมาณจ่ายชดเชยส่วนต่างราคาประกันกับราคาตลาดรวม 4.8 หมื่นล้านบาท และใช้งบประมาณมาตรการคู่ขนานพยุงราคาข้าว 6 พันล้านบาท ซึ่งโครงการในปีที่ 2 มีการจ่ายเงินส่วนต่างสูงสุดต่อครอบครัว ดังนี้ ข้าวหอมมะลิจ่ายชดเชยสูงสุด 42,830 บาท ข้าวหอมนอกพื้นที่ 41,680 บาท ข้าวเจ้า 36,670 บาท ข้าวหอมปทุม 26,674 บาท ข้าวเหนียว 33,350 บาท
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า จากหารือสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย พบว่า แนวโน้มการสั่งซื้อข้าวไทยดีขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ เนื่องราคาข้าวไทยแข่งขันกับเวียดนามและอินเดียได้มากขึ้น เช่นข้าวเจ้า5% ไทยสูงกว่า 2-5 เหรียญสหรัฐต่อตัน และเงินบาทอ่อนค่าในอัตราที่เหมาะสมต่อการแข่งขัน ทำให้ปีนี้ยังคงเป้าหมายส่งออกข้าว 6 ล้านตัน จากช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ส่งออกรวม 2.74 ล้านตัน
