“ต่างชาติ” มองศก.ไทยยังแย่ โควิดฉุดกำลังซื้อ คาดปี’64 จีดีพีอาจติดลบ

“ต่างชาติ” มองศก.ไทยยังแย่ โควิดฉุดกำลังซื้อ คาดปี’64 จีดีพีอาจติดลบ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่างชาติในไทย ประจำไตรมาสที่ 2/2564 ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างหอการค้าต่างประเทศจำนวน 35 ประเทศ รวม 70 ราย ผู้ตอบมีตำแหน่ง ประธาน รองประธาน เลขาธิการ และกรรมการหรือสมาชิกที่ได้รับมอบหมาย สำรวจระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2564 พบว่า หอการค้าต่างประเทศมีความคิดเห็นต่อเศรษฐกิจปัจจุบัน ในเรื่องของสถานการณ์เศรษฐกิจไทย กำลังซื้อในประเทศ การลงทุนจากต่างประเทศ นโยบายเศรษฐกิจไทย สถานการณ์การท่องเที่ยวไทย และภาคอุตสาหกรรมในประเทศ แย่ลง จึงทำให้ค่าดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของนักธุรกิจต่างประเทศ ลดลงอยู่ที่ 28.5 จาก และ 31.8 ในไตรมาสที่ 1/2564 ส่วนค่าดัชนีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ ลดลงอยู่ที่ 26.8 จาก 34.6 ในไตรมาสที่ 1/2564 และดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่างประเทศ ในไตรมาสที่ 2/2564 ลดลงอยู่ที่ 27.7 จาก 33.2 ในไตรมาสที่ 1/2564

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมในไทยที่กลุ่มตัวอย่างต้องการให้เร่งแก้ไขเร่งด่วน อาทิ การบริหารจัดการวัคซีนที่ล่าช้าไม่เป็นไปตามแผนที่กาหนดและวัคซีนไม่เพียงพอ การระบาดของโควิดระลอก 3-4 รุนแรง กระจายทั่วประเทศและยังควบคุมในวงจากัดไม่ได้ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ยากลาบากของภาคธุรกิจเอกชนทำให้เกิดการขาดสภาพคล่อง การว่างงานของแรงงานจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่ออำนาจซื้อ และข้อจำกัดและมาตรการที่เข้มงวดในการรับมือโควิด-19 ส่งผลต่อความยากลำบากในการลงทุนและดำเนินธุรกิจ

“ส่วนแนวโน้มของไตรมาสที่ 3/2564 กลุ่มตัวอย่างมองว่าเศรษฐกิจไทยยังนิ่งและมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่อง การฟื้นตัวของธุรกิจยังเห็นไม่ค่อยชัดเจนในไตรมาสที่ 3/2564 สำหรับปัญหาที่กระทบต่อการดำเนินธุรกิจส่วนใหญ่มาจากคำสั่งซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศลดลงเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ซบเซา ธุรกิจขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการในการเยียวยาของรัฐบาลได้และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันทางการเงินได้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19ที่ยังคงควบคุมไม่ได้ และไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทั้งกับผู้บริหารและพนักงาน” นายธนวรรธน์ กล่าว

Advertisement

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ทั้งนี้ หากรัฐบาลสามารถกระจายวัคซีนได้ กลุ่มตัวอย่างน เชื่อว่าในช่วงไตรมาสที่ 3/2564 สถานการณ์อาจค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ โดยคาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่างประเทศ ในอนคาตจะอยู่ที่ระดับ 34 แต่ถึงแม้จะมีแนวโน้มดีขึ้นแต่ก็ยังต่ำกว่าระดับ 50 เท่ากับว่าสถานการณ์ก็ยังอยู่ในระดับแย่อยู่ดี วึ่งสิ่งที่นักธุรกิจต่างชาติต้องการให้รัฐบาลสนับสนุน คือ การจัดหาวัคซีนเพื่อนามาฉีดให้ประชาชนในประเทศให้เร็วและทั่วถึงที่สุด การจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ให้กับภาคธุรกิจและเอสเอ็มอี เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนธุรกิจ และจัดหามาตรการช่วยเหลือและเยี่ยวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า กลุ่มตัวอย่างฯ กว่า 70% มองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปี 2564 มีโอกาสติดลบจากปัจจัยลบที่ไทยเผชิญอยู่ในปัจจุบัน แต่หากรัฐบาลสามารถจัดหาวัคซีนได้เพิ่มเติมเศรษฐกิจมีโอกาสพลิกตัวกลับมาเป็นบวกได้ และประเมินว่าจะได้เห็นเศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัวดีอีกครั้งในช่วงไตรมาสที่ต้นปี ถึงกลางปี 2565

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image