‘โกลเบล็ก’ ชี้ยอดติดโควิดพุ่ง-การเมืองระอุ กดดันทางขึ้นหุ้นไทย ให้กรอบดัชนีต่ำสุด 1,480 จุด
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทย ประเมินยังเห็นภาพแนวโน้มปรับตัวเคลื่อนไหวแกว่งตัวขาลง (ไซด์เวย์ดาวน์) โดยมีแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง และยอดผู้เสียชีวิตที่ทำจุดสูงสุด (นิวไฮ) อย่างต่อเนื่อง โดยศบค.มีมติเห็นชอบให้ขยายมาตรการเดิมในพื้นที่สีแดงเข้มเป็น 29 จังหวัดไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ เนื่องจากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และทรงตัวในหลัก 2 หมื่นคนต่อวัน ทั้งในโรงงาน หรือคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลต่อการผลิตของภาคอุตสาหกรรมลดลง ทำให้คาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในกรอบระดับ 1,480-1,550 จุด
“ล่าสุดสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีการปรับลดจีดีพีปี 2564 เหลือโตเพียง 0.7-1.2% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 1.5-2.5% ประกอบกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ยังมีการจัดชุมนุมทางการเมืองเพื่อขับไล่นายกฯ อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ซึ่งกดดันการปรับขึ้นของดัชนีได้ในระยะถัดไป” นางสาววิลาสินี กล่าว
นางสาววิลาสินี กล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่องในเดือนสิงหาคมนี้ อาทิ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วาระ 2-3 รวมทั้งการรายงานจีดีพี ไตรมาส 2/2564 รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาของอียู และสหรัฐจะมีการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนกรกฎาคม การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิถุนายน ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนสิงหาคม สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนสิงหาคม และการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิงในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ โดยแนะนำกลยุทธ์ลงทุนในหุ้น เลือกหุ้นปลอดภัย ได้แก่ ADVANC, TTW, EASTW และ BGRIM ซึ่งเหมาะกับการลงทุนในระยะยาวจากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และแนวโน้มธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงมีระดับอัตราส่วนราคาต่อกำไร (พีอีเรโช) ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน
