‘ตลาดหลักทรัพย์ฯ’ อวดศักยภาพตลาดทุนไทย ผ่าน ‘ไทยแลนด์ โฟกัส 2021’ การันตีด้วยสภาพคล่องที่ 1 ในอาเซียน
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดงาน “Thailand Focus 2021 : Thriving in the Next Normal” ระหว่าง 25-27 สิงหาคม 2564 โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ปาฐกถาพิเศษ “Shaping Thailand’s Readiness for Post COVID–19 Economic Opportunities“ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนสถาบันทั่วโลกถึงความพร้อมทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยปัจจุบันไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่อง จากตัวเลขการส่งออกขยายตัวเกือบ 16% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 พร้อมย้ำมาตรการฟื้นฟูทั้งระยะกลางและระยะยาว และในปี 2565 รัฐเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องภายใต้ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนตามโมเดลเศรษฐกิจยั่งยืน
“แม้ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจทั่วโลกยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะหยุดนิ่งไม่ได้ เพราะภาคเศรษฐกิจมีส่วนในการขับเคลื่อนการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของภาคประชาชน แต่ธุรกิจจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้ช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับการปรับตัวและการเปลี่ยนแปลงได้ดีและทันสถานการณ์มากน้อยเท่าใด” นายภากร กล่าว
นายภากร กล่าวว่า การจัดงานไทยแลนด์ โฟกัสขึ้นในปีนี้ มีผู้ลงทุนสถาบัน 192 ราย จาก 105 สถาบันทั่วโลกเข้าร่วม ทั้งการรับฟังข้อมูลที่ภาครัฐภาคเอกชนที่มานำเสนอกลยุทธ์การรับมือและการปรับตัวของธุรกิจไทย และพร้อมรองรับการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต และการประชุมซักถามข้อมูลโดยตรงจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย รวมกว่า 102 บริษัท โดยมีผู้ลงทุนจากกลุ่มประเทศหลัก ได้แก่ สิงคโปร์ ฮ่องกง สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศใหม่ๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงาน อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม สะท้อนถึงการที่ไทยอยู่ในความสนใจของผู้ลงทุนสถาบัน ซึ่งการจ้ดงานแบบ virtual conference นี้เปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น
นายภากร กล่าวว่า การระบาดโควิด-19 ในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน แต่สามารถพูดได้ว่ามีโอกาสอยู่ในทุกวิกฤต โดยตลาดทุนไทยได้พิสูจน์ความคงทนด้วยการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดหลายระลอก แม้จะมีการระบาดขยายอย่างกว้างขวาง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ก็ยังสามารถประสบความสำเร็จได้ โดยสะท้อนได้จาก 1.ตลาดเซตเป็นหนึ่งในแหล่งระดมทุนหุ้น (ไอพีโอ) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2563 มีมูลค่าของหุ้นไอพีโอทะลุ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และได้รับการจัดอันดับใน 10 อันดับแรกของโลก, 5 อันดับแรกของเอเชีย และเป็นอันดับ 1 ของอาเซียนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีการนำเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกอย่างคึกคัก โดยมูลค่าหุ้นที่นำออกมาเสนอขายพุ่งขึ้นจนถึงระดับ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว
2.ตลาดเซตเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุดในบรรดาตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียนด้วยกัน มูลค่าการซื้อขายต่อวันพุ่งขึ้นมากกว่าสามพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวันในปีนี้ จากเดิม 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ของปีที่ผ่านมา เพราะฐานของผู้ลงทุนที่มีความหลากหลายของตลาดหลักทรัพย์ไทย และมีการจดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นของบริษัทต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
3.บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจำนวนไม่น้อยเป็นผู้นำในการดำเนินนโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมทั้งได้รับรางวัลและคำชมเชยหลากหลาย บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับเลือกให้เข้าไปเป็นปัจจัยหนึ่งในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) นับเป็นจำนวนสูงสุดในอาเซียน และเมื่อเร็วๆ นี้ โดยประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับหนึ่งในบรรดาประเทศอาเซียน ที่สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) ได้
นายภากร กล่าวว่า เพื่อให้สามารถก้าวหน้าต่อไปได้อีก ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเน้นไปที่การเปลี่ยนผ่านที่ราบรื่นไปสู่ “next normal” หรือยุคหลังการระบาดของโควิด-19 โดยการรับเอาเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ เข้ามาใช้ รวมทั้งเปิดให้ผู้ลงทุนสามารถเชื่อมโยงได้กับตลาดทุนระดับโลกต่างๆ มากขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในด้านต่อไปนี้ ได้แก่ 1.แพลตฟอร์มข้อมูลการพัฒนาแบบยั่งยืน (ESG data platform) 2.แพลตฟอร์ม Golbal Product หรือ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลสำหรับตลาดทุนไทย เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงตลาดทุนโลก และ 3.โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่ตลาดหลักทรัย์ฯ ได้เดินหน้าปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลผ่านการเพิ่มบริการใหม่ๆ โดยได้ร่วมมือกับผู้เล่นรายสำคัญ เพื่อสามารถให้บริการได้ดีกว่าเดิมโดยผ่านบริการออนไลน์ อย่างเช่น การประชุมผู้ถือหุ้น ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-AGM การออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นออนไลน์ หรือ e-proxy voting และการทำความรู้จักลูกค้าผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC ซึ่งในกระบวนการนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำเอาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในปี 2565 ซึ่งจะทำให้บรรดาธุรกิจใหม่และนักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนทางเลือกหลากประเภท