ฮือฮา! ประมูลสุดยอดกาแฟไทย ‘โรบัสต้า’ ชุมพร สูงถึงโลละ 20,000 บาท

ฮือฮา! ประมูลสุดยอดกาแฟไทย ‘โรบัสต้า’ ชุมพร สูงถึงโลละ 20,000 บาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการเปิดการประมูลสุดยอดกาแฟ รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมอบนโยบายพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อร่วมผลักดันตลาดกาแฟทั้งในและต่างประเทศ ภายในงานประมูลสุดยอดกาแฟไทยปี 2564 ว่า เป้าหมายเพื่อกระตุ้นกระแส การบริโภคกาแฟไทยในกลุ่มผู้บริโภคให้เพิ่มมากขึ้น โดยปีนี้ เป็นการจัดประมูลสุดยอดกาแฟผ่านระบบออนไลน์ครั้งแรกหลายช่องทางเพื่อให้เข้ากับยุค New Normal ซึ่งมีคนเข้าร่วมงานผ่านระบบ Zoom และ Facebook live จำนวนมาก โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตร ภายใต้การสนับสนุนจาก องค์การกาแฟระหว่างประเทศ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ

นายจุรินทร์กล่าวว่า การจัดกิจกรรมรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้เราต้องปรับการดำเนินชีวิตและรูปแบบการทำงาน เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยกาแฟเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทย มีมูลค่าการค้ากว่า 33,000 ล้านบาท เมื่อพูดถึงทิศทางของตลาดกาแฟไทยในปัจจุบันพบว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไทยมีความต้องการใช้เมล็ดกาแฟเฉลี่ยที่ 88,862 ตันต่อปี แต่สามารถผลิตเมล็ดกาแฟดิบได้เฉลี่ยเพียง 24,671 ตันต่อปี หรือประมาณ 28% ของความต้องการใช้เมล็ดกาแฟเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภคในประเทศ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมกาแฟไทยยังมีโอกาสเติบโตต่อไป หากเกษตรกรไทยสามารถเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในประเทศหลายกลุ่มที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ และพร้อมจะทดลองรสชาติใหม่ๆ

นอกจากนี้ ด้านตลาดต่างประเทศ นั้น กาแฟไทย ถือว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดี ไม่เป็นรองใคร โดยปัจจุบัน เรามีตลาดส่งออกเมล็ดกาแฟดิบที่สำคัญ คือ แคนาดา ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา และมีตลาดส่งออกกาแฟคั่วที่สำคัญ คือ กัมพูชา มาเลเซีย และฮ่องกง โดยที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันการส่งออกให้กับผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่องในทุกสินค้าที่มีศักยภาพ แม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้การบริโภคกาแฟในภาพรวมลดลง แต่เมื่อมองแนวโน้มและพิจารณาตลาดกาแฟในระยะยาวแล้ว ผมเชื่อว่าสินค้ากาแฟยังคงมีโอกาสทางการตลาดสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“ปีนี้คัดเลือกนำเมล็ดกาแฟเข้าร่วมประมูล ต้องบอกว่าเมล็ดกาแฟไทยทุกรายการที่นำมาประมูลมีคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์ทั้งด้านกลิ่นและรสชาติ พิเศษกว่าเมล็ดกาแฟระดับพรีเมียมทั่วไป เพราะเป็น Specialty Coffee ที่ได้รับคะแนน Cupping จากผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟทั้งของไทยและระดับโลก 80 คะแนนขึ้นไป จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานประมูลสุดยอดกาแฟไทยปี 2564 ในครั้งนี้จะสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ให้กับกาแฟไทย พร้อมกระตุ้นตลาดผู้บริโภคกาแฟของไทยให้มีชีวิตชีวาในท่ามกลางวิกฤตนี้ได้อีกครั้ง และผมขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน ทั้งจากภาครัฐ เอกชน สมาคม และเกษตรกรที่ร่วมกันผลักดันให้โครงการนี้เกิดขึ้น และขออวยพรให้การจัดงานวันนี้ประสบความสำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ ” นายจุรินทร์กล่าว

Advertisement

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การจัดงานได้รับความสนใจจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร สมาคม โรงคั่วกาแฟ ร้านกาแฟ กลุ่มนักบริโภคกาแฟยุคใหม่ รวม 1,500 ราย โดยราคาเปิดประมูลเมล็ดกาแฟโรบัสต้า 10 รายการ เริ่มต้นกิโลกรัมละ 150 บาท เคาะราคาประมูลสูงสุดที่ 20,000 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับเมล็ดกาแฟอาราบิก้า 30 รายการ ราคาประมูลเริ่มต้นกิโลกรัมละ 200 บาท เคาะราคาสูงสุด 6,400 บาทต่อกิโลกรัม ภาพรวมสามารถสร้างมูลค่าได้สูงกว่าราคาตลาดปกติโดยเฉลี่ยถึง 60 เท่า ซึ่งรายได้ที่ได้จากการประมูลทั้งหมด จะจ่ายตรงให้กับเกษตรกรโดยไม่หักค่าใช้จ่าย โดยเมล็ดกาแฟที่ประมูลราคาสูงสุดพันธุ์อาราบิก้าเป็นของนายฉิ่ง แซ่ท้าว เกษตรกรจังหวัดน่าน 6,400 บาท/กก. และเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้า ของนายธนาสิทธิ์ สอนสุภา เกษตรกร จ.ชุมพร เคาะราคาประมูลที่กิโลกรัมละ 20,000 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image