หุ้นพุ่งแรง บวก 22.57 จุด รับยอดโควิดลด-รัฐผ่อนคลายกิจกรรม ทำเม็ดเงินต่างชาติทะลักกว่าหมื่นลบ.

หุ้นพุ่งแรง บวก 22.57 จุด รับยอดโควิดลด-รัฐผ่อนคลายกิจกรรม ทำเม็ดเงินต่างชาติทะลักกว่าหมื่นลบ.

วันที่ 30 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,611.2 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,633.77 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 22.57 จุด หรือ 1.40% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,634.92 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,621.42 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 116,419.28 ล้านบาท

โดย นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับระดับขึ้นอย่างร้อนแรง ตอบรับปัจจัยในประเทศ ได้แก่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ปรับระดับลดลงอยู่ในบริเวณ 1.5-1.7 หมื่นคนต่อวัน แม้ยังทรงตัวในระดับสูงอยู่ การผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ อาทิ การเปิดห้างสรรพสินค้า อนุญาตให้นั่งทานอาหารที่ร้านได้ รวมถึงการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่รีบร้อนในการปรับลดวงเงินในมาตรการเชิงปริมาณ (คิวอี) จึงมีความคาดหวังว่า กระแสเงินยังมีโอกาสไหลกลับเข้ามาอีกในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ปรับขึ้นนำตลาดได้ดี โดยเฉพาะตัวที่ถูกต่างชาติขายไปจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา อาทิ หุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มพลังงาน รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ฟื้นตัวกลับคืนมา ซึ่งได้แรงหนุนจากการกำหนดกลับมาเปิดห้างอีกครั้ง

“ทิศทางดัชนีหุ้นไทย ประเมินแนวต้านแรกอยู่ที่ระดับ 1,635 จุด ซึ่งขณะนี้ดัชนีปรับขึ้นทดสอบระดับดังกล่าวแล้ว จึงให้แนวต้านถัดไปที่ 1,650 จุด ซึ่งถือเป็นจุดที่ดัชนีปรับขึ้นค่อนข้างตึงตัวแล้วในแง่ของมูลค่าหุ้น (แวลูเอชั่น) เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศที่รออยู่ ได้แก่ ความร้อนแรงทางการเมือง และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ที่คาดว่าคงไม่ได้สดใสมากนัก ทำให้ระดับดัชนีที่ 1,650 จุด ค่อนข้างร้อนแรงมากเกินไป โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนคือ หากดัชนีปรับขึ้นให้ขายทำกำไรออกก่อน ส่วนการซื้อเก็บใหม่ให้รอดูช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ คาดว่าดัชนีจะมีจังหวะพักตัวลงมา จากแรงกดดันของปัจจัยกระทบในประเทศ โดยแนะนำหุ้นใหญ่ที่ต่างชาติขายออกมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา อาทิ แอดวานซ์ ท็อป ซีพีเอ็น ซีพีออลล์ บีดีเอ็มเอส โอสถสภา” นายณัฐพล กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image