ก.ล.ต. ไฟลิ่ง “สีเดลต้า ” พร้อมเข้าเทรดในตลาด mai ภายในปีนี้

ก.ล.ต. ไฟลิ่ง “สีเดลต้า ” พร้อมเข้าเทรดในตลาด mai ภายในปีนี้

นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT เปิดเผยว่า ล่าสุดคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ไฟเขียวนับหนึ่งไฟลิ่งให้เบริษัทเข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว โดยมีแผนจะเสนอขายหุ้น IPO 53.25 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.15% ระดมทุนขยายธุรกิจรองรับโอกาสการเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ที่ขยายตัว โดยเฉพาะแผนเร่งลงทุนหลังโควิด เสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเพิ่มความแข็งแกร่งและสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท ผ่านการลงทุนและพัฒนาต่างๆ เช่น การปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ ซึ่งตั้งเป้าเป็นโรงงานนวัตกรรมที่ออกแบบตามแนวคิดเพื่อความยั่งยืน รวมทั้งการซื้อเครื่องผสมสี จำนวน 440 เครื่อง การทำระบบ ERP และห้อง LAB รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ชูจุดเด่น การขยายฐานลูกค้า และพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ หนุนอัตรากำไรขั้นต้นสูงระดับ 44%

“การเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักลงทุนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความสำเร็จของเราในฐานะผู้นำในธุรกิจสีทาอาคาร ที่มีศักยภาพและความพร้อมสูงในการสร้างความเติบโตเพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงหลังโควิด-19 ด้วยจุดแข็งด้านกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าคุณภาพที่สูง ง่ายต่อการใช้งาน และคุ้มค่า สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยาวนานกว่า 42 ปี มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในสภาวะการแข่งขันและการสร้างความได้เปรียบในการทำการตลาด รวมทั้งทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถเจาะขยายฐานลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ตลอดจนมีทีมวิจัยและพัฒนาที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างมีเอกลักษณ์ มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับโลก ตลอดจนเครือข่ายคู่ค้าที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและตรงความต้องการในแต่ละกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง”นายรณฤทธิ์กล่าว

นายรณฤทธิ์กล่าวว่า บริษัทฯ DPAINT เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายใหญ่ ภายใต้พันธกิจในการมอบ “คุณค่าที่มากกว่า” ให้สังคมไทย ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร (Decorative Paint) แบ่งเป็น สีคุณภาพพิเศษ สีคุณภาพสูง และสีคุณภาพคุ้มค่า โดยมีกลุ่มลูกค้า ได้แก่ ผู้รับเหมาและช่างทาสี เจ้าของที่พักอาศัย และเจ้าของโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการมอบ “คุณค่าที่มากกว่า” บริษัทฯ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยีระดับโลกเพื่อตอบสนองการใช้งานในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย พร้อมคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น DPAINT เป็นบริษัทแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นำเครื่องจักรผลิตสีด้วยเทคโนโลยีแบบสูญญากาศมาใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังการผลิต และลดการใช้พลังงานไปพร้อมๆ กัน รวมถึงการคิดค้นผลิตภัณฑ์ Toptech สีรองพื้นปูนพิเศษสูตรน้ำนวัตกรรมสีรองพื้น ช่วยลดระยะการทำงานของช่างทาสีได้ถึง 75% เป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาเลือกใช้กับแลนด์มาร์กระดับโลก และล่าสุด DPAINT ได้ร่วมจับมือกับดิสนีย์ เปิดตัวสีเดลต้าเมจิก ชิลด์ (DELTA MAGIC SHIELD) สีทาภายใน เกรดอัลตร้าพรีเมียม เพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นแฟนคลับดิสนีย์ ได้เพลิดเพลินกับการเนรมิตห้องในฝันด้วยสีสันแห่งจินตนาการจากดิสนีย์ โดยบริษัทฯและบริษัทย่อยจัดจำหน่ายสินค้าผ่านร้านโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ร้านค้าปลีก (Retail) ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ รวมทั้ง งานโครงการ (Project) และการบริการเครื่องผสมสีที่นำไปติดตั้งให้ลูกค้าที่เป็นร้านค้าใช้งาน

“หลังจากบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะมีความพร้อมมากขึ้นในการขยายโอกาสทางธุรกิจ เติบโตเคียงคู่อุตสาหกรรมงานก่อสร้าง ที่คาดว่าจะมีการเร่งลงทุนหลังมาตรการภาครัฐผ่อนคลาย รับสถานการณ์โควิดมีแนวโน้มดีขึ้น อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว เสริมศักยภาพให้ DPAINT ก้าวสู่ความเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายใหญ่ มุ่งพัฒนาแบรนด์ “สีเดลต้า” ให้แข็งแกร่ง พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมสีของไทยอย่างไม่หยุดยั้ง และสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต” นายรณฤทธิ์กล่าว

Advertisement

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจาก DPAINT ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 53.25 ล้านหุ้น คิดเป็น 23.15% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (Par value) 1.00 บาทต่อหุ้น ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูล (Filing) เรียบร้อยแล้ว ตามแผนคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ภายในปีนี้

ปัจจุบัน DPAINT มีทุนจดทะเบียน 230,000,000 บาท ทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว 176,750,000 บาท การระดมทุนครั้งนี้จะนำเงินที่ได้ไปขยายธุรกิจ โดยนำไปใช้เป็นเงินทุนในการปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และระบบการผลิตที่โรงงานสุวินทวงศ์ รวมทั้ง ใช้เป็นเงินทุนในการซื้อเครื่องผสมสี จำนวน 440 เครื่อง ภายในปี 2568 และใช้เป็นเงินทุนในการทำระบบ ERP ใช้เป็นเงินทุนสร้างห้อง LAB ภายในปี 2565 ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการที่เหลือหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองต่างๆ ตามกฎหมาย โครงสร้างของผู้ถือหุ้น ประกอบด้วยกลุ่มนายอาจณรงค์ ตั้งคารวคุณ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ 96.18% และ 73.91% ตามลำดับ นอกจากนี้ ทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองทุนย่อยกองที่ 2) โดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด ในฐานะทรัสตี ถือหุ้นในสัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ 3.76% และ 2.89% ตามลำดับ และบริษัท พีพีเอ็ม แอ็ดไวเซอรี จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วนก่อนและหลัง IPO ที่ 0.06% และ 0.04% ตามลำดับ

สำหรับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561 – 2563) มีการเติบโตต่อเนื่องทั้งรายได้และกำไร โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 522.8 ล้านบาท 595.2 ล้านบาท 603.2 ล้านบาท ตามลำดับ และงวดไตรมาส 1 ของปี 2564 เทียบกับปี 2563 อยู่ที่ 193 ล้านบาท และ 155.1 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโต 24.4% จากการขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง โดยมีการเพิ่มจำนวนคู่ค้าทั้งร้านโมเดิร์นเทรดและร้านค้าปลีก และการเริ่มผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ โดยเฉพาะกลุ่มสีคุณภาพพิเศษ ที่มีอัตรากำไรดี สำหรับผลิตภัณฑ์ของบริษัทในงวดไตรมาสแรกปีนี้ มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์สีคุณภาพพิเศษ สัดส่วน 39.4% สีคุณภาพคุ้มค่า 32.6% และสีคุณภาพสูง 28%

ภาพรวมกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561 – 2563) อยู่ที่ 12.4 ล้านบาท 35.5 ล้านบาท และ 41.9 ล้านบาทตามลำดับ และงวดไตรมาส 1 ของปี 2564 เทียบกับปี 2563 อยู่ที่ 21.2 ล้านบาท และ 9 ล้านบาทตามลำดับ จากสัดส่วนการขายสินค้าที่อัตรากำไรมากขึ้นรวมไปถึงการได้เปรียบเชิงต้นทุน (Economies of Scale) โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงระดับ 44% และอัตรากำไรสุทธิ 11%

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image