“ผู้ว่าฯกคช.” ปลื้มปีนี้ เซมโก้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเป็นปีแรก

“ผู้ว่าฯกคช.” ปลื้มปีนี้ เซมโก้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นเป็นปีแรก

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยถึงการดำเนินงานของ กคช.ครบรอบ 1 ปี ที่รับตำแหน่งว่า ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงข้อบังคับกฎระเบียบต่างๆของกคช.รวมทั้งมีการปรับปรุงช่องทางรับเรื่องร้องเรียน ขณะเดียวกัน กคช.ได้รับการโหวตเรื่องคุณธรรมและการดำเนินงานอย่างโปร่งใสในองค์กรของภาครัฐ โดยได้คะแนน 97.93 คะแนน ซึ่งเพิ่มขึ้น 11.97% ขึ้นเป็นที่ 1 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และเป็นที่ 8 ของรัฐวิสาหหกิจทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี

นายทวีพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มรายได้ให้องค์กรด้วยการนำสินทรัพย์กลับมาบริหารเอง เพื่อให้องค์กรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยให้ประชาชนสามารถมาทำสัญญาเช่าตรงกับกคช.ได้ ซึ่งกคช.จะรับคืนอาคารเช่าเหมาจากเอกชนไม่รวมหน่วยงานของรัฐจำนวน 60 สัญญา 32,657 ยูนิต โดยมีสัญญาที่สามารถทำสัญญาได้ 51 สัญญา รวม 28,393 ยูนิต เริ่มทำสัญญากับผู้เช่าโดยตรงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนจน- 31 สิงหาคม 2564 ปรากฏว่า มีผู้เช่าลงทะเบียน 5,751 ยูนิต ทำสัญญาเช่ากับ กคช. จำนวน 3,825 ยูนิต คาดว่า ณ 31 ธันวาคม 2564 มีผู้มาทำสัญญาเช่ารายย่อยกับกคช.จำนวน 22,919 ยูนิต ซึ่งประชาชนจะได้รับลดส่วนตามมาตรการช่วยเหลือผู้เช่ารายย่อย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) โดยให้ปรับลดค่าเช่าตั้งแต่ 999 ขึ้นไป เป็นค่าเช่า 999 บาท และค่าเช่าที่ต่ำกว่า 999 บาท ลดให้จากค่าเช่าเดิม 50 % เป็นระยะเวลา 5 เดือน (เดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคม 2564) ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ จำนวน 68,757 คน และลดค่าครองชีพประชาชน จำนวน 47 ล้านบาท

เซมโก้จ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นครั้งแรก

Advertisement

นายทวีพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มีการแก้ไขปัญหา บริษัท จัดการทรัพย์สินและชุมชน จำกัด หรือ CEMCO เป็นบริษัทในเครือที่กคช.ถือหุ้น 49 % เพื่อดำเนินงานบริหารจัดการชุมชน พัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัย ตลอดจนดำเนินภารกิจอื่น ๆ ซึ่งกคช.ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของบริษัท CEMCO ใหม่ จากเดิมที่ประสบภาวะขาดทุน ปัจจุบันเริ่มมีกำไร โดยในปี 2563 มีกำไรสุทธิ 3.54 ล้านบาท ส่วนณ วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ได้รับงานบริหาร จำนวน 67 โครงการ 57,943 ยูนิต ในจำนวนนี้ ได้งานบริหารงานจากกคช. 26 โครงการ 31,141ยูนิต นอกจากนี้ ยังมีงานบริการด้านรักษาความปลอดภัยในนามของ บริษัท รักษาความปลอดภัย และบริการ เซมโก้ จำกัด (CSS) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2564 อีกด้วย

“สำหรับผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 นั้น ปัจจุบันมีกำไรแล้วกว่า 600 ล้านบาท แต่ก็ยังคงต่ำกว่าเป้า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ส่วนเซมโก้ที่มีผลขาดทุนสะสม 14 ล้าน จากทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาทนั้น คาดว่าปีนี้จะทำกำไรได้กว่า 30 ล้านบาท และจะเป็นปีแรกที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น”นายทวีพงษ์กล่าว

Advertisement

เตรียมตั้งบริษัทลูกเพื่อก่อสร้าง-ดูแลโครงการร่วมทุน

นายทวีพงษ์ กล่าวต่อว่า กคช.ได้จัดโปรโมชั่น “เช่าทั่วไทย” เริ่มต้นเพียง 999 บาท/เดือน บ้านเช่าราคาพิเศษ จำนวน 10,000 ยูนิต โดยเปิดให้จองสิทธิผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ได้มีโอกาสเข้าถึงที่อยู่อาศัย ซึ่งมีผู้แสดงความสนใจประมาณ 28,000 ราย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการส่งมอบห้องเช่า และคาดว่าจะส่งมอบให้กับผู้เช่าได้ภายในปี 2564 ขณะเดียวกันยังได้นำทรัพย์สินคงเหลือ (Sunk Cost) มาเพิ่มมูลค่า ทำให้องค์กรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยจัดทำ “โครงการบ้านเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย” ภายใต้ชื่อ “โครงการบ้านเคหะสุขประชา” ซึ่งได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 มีเป้าหมายจัดสร้าง 100,000 ยูนิต ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2564 – 2568) กำหนดส่งมอบปีละประมาณ 20,000 ยูนิต และยังได้สร้างเศรษฐกิจชุมชนคู่ขนานกันไปในมิติ มีบ้าน – มีอาชีพ – มีรายได้ – มีสุข ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปัจจุบันได้จัดทำโครงการนำร่อง 2 พื้นที่ ได้แก่ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า 270 ยูนิต และโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง 302 ยูนิต นอกจากนี้ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำโครงการ 13 พื้นที่ โดยกคช.จะพัฒนาเอง 3,948 ยูนิต รวมทั้งกำหนดแผนการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดทำโครงการ 8 พื้นที่ โดยวิธีร่วมลงทุนกับภาคเอกชน (JO) 1,926 ยูนิต และยังเตรียมจัดทำร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบูรณาการความร่วมมือในการใช้ที่ดินหน่วยงานรัฐอื่นระหว่าง 6 กระทรวง 1 สำนักงาน ตลอดจนเตรียมจัดตั้งบริษัทในเครือของกคช. เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการจัดประโยชน์ในรูปแบบเศรษฐกิจสุขประชา พร้อมบริหารชุมชน ซึ่งอยู่ระหว่างนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

นายทวีพงษ์กล่าวว่า นอกเหนือจากโครงการบ้านเคหะสุขประชา ซึ่งเป็น “บ้านเช่าพร้อมอาชีพ” เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ยังได้ดำเนิน “โครงการบ้านเคหะสุขเกษม” เป็นโครงการจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้เกษียณอายุราชการ สามารถอยู่อาศัยในรูปแบบเช่าระยะยาว ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการต้นแบบ “บ้านเคหะสุขเกษม” เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564ที่ผ่านมา โดยจะจัดสร้างบริเวณซอยที่ดินไทย จ.สมุทรปราการ เนื้อที่รวมทั้งโครงการประมาณ 126.5 ไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ระยะ รวม 4,089 ยูนิต อัตราค่าเช่าตั้งแต่ 2,500 – 3,000 บาทต่อเดือน

ลดดอกเบี้ยช่วยลูกค้ารับผลกระทบโควิด

นายทวีพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้กคช.ได้ให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส COVID – 19 ด้านการเงินตามนโยบายของรัฐบาล โดยดำเนินการใน 3 ประเภท ได้แก่ ลูกค้าใหม่ ในอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ 0 % และลดราคาขายพิเศษ (Shock Price) โครงการบ้านเอื้ออาทร 56 โครงการ หน่วยละ 250,000 – 520,000 บาท และยังมีบ้านเช่าราคาพิเศษ 999 – 1,200 บาท/เดือน จำนวน 84 โครงการ ขณะที่ลูกค้าเช่าซื้อปัจจุบัน ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 6.50 % ทุกประเภทสัญญา พร้อมปรับโครงสร้างหนี้ลูกค้าเช่าซื้อ โดยลูกค้าที่สามารถเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวมีทั้งสิ้น จำนวน 15,865 ราย ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ จำนวน 8,224 ราย และทำสัญญาแล้ว จำนวน 6,574 ราย ซึ่งสามารถช่วยลดภาระหนี้ให้ลูกค้าได้ 92.39 ล้านบาท นอกจากนั้นยังให้ส่วนลดค่างวดเช่าซื้อ จำนวน 1,000 บาทเพียงครั้งเดียวแก่ลูกค้าเช่าซื้อที่มีอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 6.50 % และทำสัญญาเช่าซื้อก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ส่วนลูกค้าที่ถูกซื้อคืนจากสถาบันการเงิน จะได้รับส่วนลดค่าเสียหายตามสัญญา 50% และเข้าร่วมมาตรการปรับโครงสร้างหนี้เช่าซื้อกับ กคช. โดยปัจจุบันมีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการและทำสัญญาแล้ว จำนวน 334 ราย

สำหรับลูกค้าเช่าและจัดประโยชน์ จัดโปรโมชันระยะเวลา 5 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 31 ธันวาคม 2564 สำหรับกลุ่มลูกค้าเช่ารายย่อยโครงการอาคารเช่าของการเคหะแห่งชาติ ปรับลดค่าเช่าให้กับผู้เช่ารายย่อยที่ทำสัญญาเช่าอาคาร/อาคารพร้อมที่ดินที่มีราคาค่าเช่าตั้งแต่ 999 บาท/เดือนขึ้นไป ปรับลดเหลือ 999 บาท/เดือน หากค่าเช่าเดิมต่ำกว่า 999 บาท/เดือน ให้ปรับลดราคา 50% กลุ่มเช่าจัดประโยชน์ในโครงการของการเคหะแห่งชาติ ปรับลดค่าเช่าเป็นเวลา 2 เดือน ตามสัดส่วนของผลกระทบที่ได้รับในอัตรา 30 % และ 50% ทั้ง กลุ่มสัญญาแผงร้านค้าและลานตลาด กลุ่มสัญญาผู้ประกอบการรายใหญ่ (พลาซ่า) และกลุ่มสัญญาเช่าที่ดินเพื่อสาธารณูปการ ปรับลดค่าเช่า 30% และ 50%

นอกจากกคช.ยังดำเนินมาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส COVID – 19 ด้านสังคม ด้วยการเปิดให้บริการ ศูนย์พักพิง – พักคอย โดยใช้พื้นที่ศูนย์ชุมชนในโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อไวรัส COVID – 19 ที่ต้องการแยกตนเองจากครอบครัว ปัจจุบันจัดตั้งแล้ว 15 แห่ง สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ จำนวน 483 เตียง การมอบถุงกำลังใจ สู้โควิด – 19 โดยใช้เงินบริจาคจากนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และประชาชน นำมาจัดทำถุงยังชีพ จำนวน 6,796 ชุด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image