เริ่มแล้ว! ศปก.ศบค.ขยายเวลาการให้บริการรถขนส่งสาธารณะในพื้นที่สีแดงเข้มได้ไม่เกิน 4 ทุ่ม
เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้มีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 32) ผ่อนคลายการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกิน 75% ของจำนวนที่นั่งและที่ยืน รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง และการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งต้องหยุดการให้บริการตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน หรือจนถึงวันที่ 14 กันยายนนี้ เพื่อให้มีบริการขนส่งสาธารณะเพียงพอรองรับประชาชนในการเดินทางกลับที่พักหรือเคหสถานภายในกำหนดเวลาดังกล่าว
นายจิรุตม์กล่าวอีกว่า จากประกาศดังกล่าว เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) จึงพิจารณาขยายระยะเวลาให้ผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารประจำทาง ผู้ขับรถยนต์สาธารณะ และผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด บริการรับส่งประชาชนเดินทางกลับที่พักหรือเคหสถานให้เพียงพอกับความต้องการใช้บริการของประชาชนให้สอดคล้องกับมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน ทั้งนี้ ให้บริการรถสาธารณะดังกล่าวสามารถให้บริการเดินรถได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.
นายจิรุตม์กล่าวว่า ส่วนในการเดินทางกลับที่พักหรือเคหสถานของผู้ขับรถ ผู้เก็บค่าโดยสารผู้บริการ หรือพนักงานของผู้ให้บริการรถสาธารณะที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้บริการประชาชน ให้แสดงหลักฐานประจำตัว เช่น ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ใบอนุญาตเป็นผู้เก็บค่าโดยสาร ใบอนุญาตเป็นผู้บริการ บัตรประจำตัวพนักงาน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงกำชับผู้ประกอบการขนส่ง และผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถโดยสารธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวอย่างเคร่งครัด พร้อมกำชับให้พิจารณาจัดการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความจำเป็น และตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน
นายจิรุตม์กล่าวด้วยว่า ในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้การให้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทยังต้องดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารและผู้ขับรถ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดการเดินทาง ในระหว่างการเดินทางต้องมีการระบายอากาศภายในรถโดยสารปรับอากาศ รถตู้โดยสารปรับอากาศ และเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศภายในรถ และทำความสะอาดภายในตัวรถและพื้นผิวสัมผัสภายในรถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
