วิกฤต ‘ธุรกิจโรงแรม’ กว่า 65% เหลือสภาพคล่องประคองธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน

วิกฤต ‘ธุรกิจโรงแรม’ เผยโควิดพ่นพิษต่อเนื่อง หลังพบผู้ประกอบการกว่า 65% เหลือสภาพคล่องประคองธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม ประจำเดือนสิงหาคม 2564 จัดทำโดยสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีโรงแรมตอบแบบสำรวจ 234 แห่ง โดยเป็นโรงแรมสถานกักกันทางเลือก (เอเอสคิว) 14 แห่ง และฮอสปิเทล 5 แห่ง ระหว่างวันที่ 13-28 สิงหาคมที่ผ่านมา พบว่ายังมีผู้ประกอบการที่พักแรมยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราการเข้าพักยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีแนวโน้มแย่ลง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีสภาพคล่องลดลงมาก ส่งผลให้มากกว่าครึ่งอาจพิจารณาปิดกิจการชั่วคราวเพื่อลดต้นทุน หากสถานการณ์โควิด-19 ยืดเยื้อกว่าที่คาดการณ์ไว้

นางมาริสากล่าวต่อว่า ขณะที่สถานะกิจการของโรงแรมจำนวน 215 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็นเอเอสคิว และฮอสปิเทล) เปิดกิจการปกติ 48.4% เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่เปิดกิจการ 40.1% โดยคาดว่าส่วนใหญ่จะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในไตรมาส 4/2564 ทั้งนี้ พบว่าส่วนใหญ่ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมดในเดือนสิงหาคม 2564 มีรายได้ไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19

“ทั้งนี้ ยังพบว่า 70% ของกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน มากถึง 65% และมีอีกจำนวนหนึ่งที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน กระจายอยู่ทุกภูมิภาค” นางมาริสากล่าว

Advertisement

นางมาริสากล่าวว่า ส่วนอัตราจ้างงาน ของผู้ประกอบการโรงแรมเฉลี่ยอยู่ที่ 54% ของช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 หากไม่รวมกลุ่มที่ปิดกิจการชั่วคราวจะเฉลี่ยอยู่ที่ 56% โดยเดือนสิงหาคม ภาคเหนือมีอัตราจ้างงาน 59.4% เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม ที่มีการจ้างงาน 56% ภาคอีสานมีอัตราจ้างงาน 62.6% ลดลงจากเดือนก่อนที่มี 70.6% ภาคกลางมีอัตราจ้างงาน 55% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่มี 52.8% และภาคใต้มีอัตราจ้างงาน 48.4% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่มี 43.8%

นางมาริสากล่าวว่า ขณะเดียวกันแบบสำรวจนี้ยังได้สอบถามถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย พบว่า 72% เห็นด้วยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ 45% คาดว่าแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะล่าช้าออกไปโดยผลต่ออัตราการเข้าพักของโรงแรมที่เปิดรับนักท่องเที่ยวตามโครงการแซนด์บ็อกซ์ นำร่องพื้นที่ภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เริ่มเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ชี้ว่า 38% ของโรงแรมในภูเก็ตมองว่าแย่กว่าที่คาด ส่วน 35% มองว่าเป็นไปตามคาด โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทรงตัวที่ 15% ขณะที่ 52% ของโรงแรมในสุราษฎร์ธานีมองว่าแย่กว่าที่คาด อัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำมากที่ 4%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image