‘ตลท.’ เผยเดือน ส.ค. 64 เม็ดเงินต่างชาติกว่า 5.5 พันลบ. ไหลเข้าหุ้นไทยเป็นเดือนแรกในรอบปี

‘ตลท.’ เผยเดือน ส.ค. 64 เม็ดเงินต่างชาติกว่า 5.5 พันลบ. ไหลเข้าหุ้นไทยเป็นเดือนแรกในรอบปี

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในปี 2563 มีการเปิดบัญชีใหม่เพื่อซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ 7-8 แสนบัญชี และในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 พบว่ามีการเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 1.1 ล้านบัญชี ซึ่งในช่วงปี 2563-2564 ถือว่ามีการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใหม่เป็นจำนวนที่สูงมาก เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมามีการเปิดบัญชีใหม่เฉลี่ยเพียง 3-4 แสนบัญชีเท่านั้น โดยสาเหตุหลักๆ มาจากการที่ปัจจุบันการเปิดบัญชีสามารถทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงในปีนี้มีบริษัทขนาดใหญ่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เน้นจำหน่ายหุ้นให้นักลงทุนรายย่อย และสามารถกระจายหุ้นได้ดี บวกกับที่ผ่านมามีการให้ความรู้ในการการลงทุน ซึ่งผู้ที่มีเงินออมสามารถลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากบัญชีเงินฝาก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากและควรต้องทำ จึงเห็นนักลงทุนรายใหม่เพิ่มมากขึ้น

นายภากร กล่าวว่า ทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ในปี 2563 ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เห็นเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย เป็นเพราะเรามีการกลับมาเปิดเศรษฐกิจใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะการเปิดกิจกรรมต่างๆ ประชาชนสามารถเดินทางได้ นั่งทานอาหารในร้านได้ เปิดห้างสรรพสินค้าได้ แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้น ประเทศไทยยังไม่มีการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้เรายังไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดให้นักลงทุนนำเงินเข้ามาลงทุนในธุรกิจบริการต่างๆ ในตลาดหุ้นไทย โดยเมื่อเราสามารถเปิดกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น เชื่อว่าจะมีเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้ามาเพิ่มเติมแน่นอน แต่ไม่ได้บอกว่านักลงทุนมองเศรษฐกิจประเทศไทยเป็นอย่างไร

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2564 ปิดที่ระดับ 1,638.75 จุด เพิ่มขึ้น 7.7% จากสิ้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา นับช่วง 8 เดือนแรกปี 2564 ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น 13.1% ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันในตลาดเซทและเอ็มเอไอ อยู่ที่ 92,589 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.8% จากเดือนเดียวกันของปี 2563 โดยใน 8 เดือนแรกปี 2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 95,886 ล้านบาท รวมถึงพบว่า เดือนสิงหาคม ถือเป็นเดือนแรกที่นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 5,584 ล้านบาท แต่หากรวมช่วง 8 เดือนแรก ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวมถึง 89,975 ล้านบาท โดยนักลงทุนในประเทศมีสถานะเป็นผู้ซื้อสุทธิ 102,609 ล้านบาท ซึ่งนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า ผู้ลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง

“ทิศทางเงินทุนต่างชาติ เป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นเหมือนกันทั่วโลก เพราะนักลงทุนมีความมั่นใจมนทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการสื่อสารออกมาเกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณการเงิน (คิวอี) ที่ชัดเจน ซึ่งจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ ไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่มากขึ้น แต่ยังมีหลายปัจจัยส่งผลกระทบได้ จึงต้องติดตามต่อไป” นายศรพล กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image