กทค.มึนคณะทำงาน-กสทช.เคาะวงเงินค่าเยียวยาทรูทูฟ-ดีพีซีต่างกันสุดขั้ว-เล็งขอให้คลัง-สตง.ช่วย

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 สำนักงาน กสทช.ได้เสนอการพิจารณาตรวจสอบเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากการให้บริการในช่วงระยะเวลาคุ้มครองผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ ของ บริษัท ทรู มูฟ จำกัด และ บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ซึ่งคณะทำงานตรวจสอบเงินนำส่งรายได้ได้ศึกษา โดยระบุว่า บริษัท ทรู มูฟ ต้องนำส่งรายได้จำนวน 13,989.24 ล้านบาท และ บริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด หรือ ดีพีซี ต้องนำส่งรายได้จำนวน 879.204 ล้านบาท รวม 14,868.83 ล้านบาท ส่วนแนวทางที่สำนักงาน กสทช. นำเสนอเปรียบเทียบนั้น ทรู มูฟ ต้องนำส่งรายได้ 3,088.42 ล้านบาท และ ดิจิตอล โฟน ต้องนำส่งรายได้ 879.39 ล้านบาท รวม 3,967.81 ล้านบาท ซึ่งสองแนวทางนี้มียอดแตกต่างกัน 10,901.02 ล้านบาท

“เนื่องจากความเห็นของคณะทำงานฯ ที่ได้เสนอยังมีจุดอ่อน เพราะคณะทำงานคิดคำนวณโดยไม่รวมกับรายได้อื่นๆ ขณะที่มติบอร์ด กทค.ต้องการให้คิดรายได้และกรอบรายจ่ายในการใช้งานคลื่อนความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮรตซ์และค่าบริการเชื่อมโยงโครงข่าย (โรมมิ่ง) ซึ่งบอร์ด กทค.ต้องเตรียมไว้เผื่อเกิดการฟ้องร้องขึ้นมาได้”นายฐากรกล่าวและว่าหลังจากการพิจารณาแล้ว กทค. จึงได้มีมติให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาขอความเห็น และนำกลับเข้ามาสู่ที่ประชุมบอร์ด กทค.พิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่า ไม่ว่าผลการพิจารณาออกมาเป็นจำนวนเงินเท่าใด น่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการฟ้องร้องกันเกิดขึ้นในภายหลัง ฉะนั้น กสทช. และ กทค. ต้องทำงานให้รอบคอบ เพื่อท้ายสุดจะได้มีข้อมูลอ้างอิงต่างๆที่ชัดเจนไปชี้แจงต่อศาลได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image