จอดป้ายประชาชื่น : ลงทุนโค้งสุดท้ายปี’64
จับทิศทางการลงทุนช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2564 (ตุลาคม-ธันวาคม) เห็นสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้น กลับมาได้รับความสนใจสูงอีกครั้ง!!
หลังการระบาดโควิด-19 ได้ลดความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้นไป เพราะผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงเทใจไปที่สินทรัพย์ปลอดภัยแทน อาทิ ทองคำ แต่ช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำก็ปรับขึ้นลง ผันผวนไม่แตกต่างกัน สะท้อนให้เห็นว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เพราะแม้สินทรัพย์ปลอดภัย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยจริงๆ แล้ว
การลงทุนเวลานี้มีหลายช่องทาง นักลงทุนหน้าใหม่ให้ความสนใจในตลาดทุนมากขึ้น โดยเฉพาะหุ้น สินทรัพย์ดิจิทัล และทองคำ ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้มีการเปิดบัญชีใหม่เพื่อลงทุนในตลาดหุ้นไทยกว่า 1.1 ล้านบัญชี สูงมาก เมื่อเทียบกับในปี 2563 อยู่ที่ 7-8 แสนบัญชี และในอดีตเฉลี่ยเพียงปีละ 3-4 แสนบัญชีเท่านั้น
สะท้อนให้เห็นว่าการให้ความรู้การลงทุนที่ผู้มีเงินออมสามารถลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ นอกเหนือจากบัญชีเงินฝากเห็นผล ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากและควรทำอย่างต่อเนื่อง
กลับมาที่ทิศทางหุ้นไทย ขณะนี้เริ่มมีสัญญาณนักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิแล้ว หลังรัฐบาลปลดล็อกดาวน์ แม้จะยังไม่เต็ม 100% แต่เป็นสัญญาณบวกว่ามีโอกาสเห็นการฟื้นตัวขึ้นของเศรษฐกิจไทย นักลงทุนต่างชาติเชื่อมั่นมากขึ้น คล้ายปี 2563 ที่ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 13,288.20 ล้านบาท ช่วงไตรมาส 4
เวลานี้ทิศทางหุ้นไทยจึงมีโอกาสในการลงทุนต่อ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากการกลับมาซื้อของนักลงทุนต่างชาติ
ล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ให้น้ำหนักการลงทุน แบ่งเป็น หุ้นต่างประเทศลง 30% หุ้นไทย 30% ผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนในหุ้นไทยอื่นๆ 15% ตราสารหนี้เป็น 20% และถือเงิน 5% เพื่อรอจังหวะลงทุนเพิ่มเติมในเดือนต่อไป
วิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม
