ล็อกดาวน์โควิดรอบ 3 ฉุดส่งออก ส.ค. บวกแผ่วแค่ 8.93% จับตานำเข้าพรวด 47.92% “จุรินทร์” ขันน็อตทูตพณ.เร่งเจาะตลาดใหม่
เมื่อวันที่ 24 กันยายน ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนสิงหาคม 2564 มีมูลค่า 21,976.23 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 8.93% ทำให้ 8 เดือนแรก มีมูลค่า 176,961.71 ล้านเหรียญสหรัฐ และบวก 15.25% ทั้งนี้เดือนสิงหาคม หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธ ส่งออกจะบวก 19.43% และ 8 เดือนแรกบวก 21.22% สะท้อนการส่งออกในกลุ่มสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรม ขยายตัวดีต่อเนื่อง รวมถึงตลาดส่งออกส่วนใหญ่ขยายตัวเป็นบวก ยกเว้นออสเตรเลีย ยูเครน ซีแอลเอ็มวี
ทั้งนี้ปัจจัยหนุนการส่งออกสิงหาคม คือ 1.มาตรการแก้ปัญหาเชิงรุกของกรอ.พณ. ร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน 2. เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว 3.ดัชนีภาคผลิตสูงขึ้นสะท้อนกำลังซื้อสูงต่อเนื่อง และ 4. เงินบาทอ่อนค่าจนแข่งขันกับต่างประเทศได้มากขึ้น ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มเกษตรเติบโตพรวด เช่น ข้าว ยาง ผัก/ผลไม้ อาหาร เป็นต้น
“ส่งออกเดือนสิงหาคม ขยายตัวในอัตราที่ลดลงกว่า 2 เดือนก่อนหน้า เพราะติดเรื่องการระบาดโควิดรอบใหม่ และต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ทำให้โรงงานบางแห่งต้องปิดตัว บางแห่งผลิตได้บางส่วน ประกอบกับโลจิสติกส์และขนส่งไปต่างประเทศติดขัดอยู่ ดูอย่างเวียดนามส่งออกดีมาตลอด แต่เดือนสิงหาคมลบ1.7% ซึ่งไทยก็เผชิญปัญหาเดียวกับเวียดนาม อย่างไรก็ยังมั่นใจส่งออกไทยจากนี้ยังดี แต่อาจบวกไม่ได้มากเหมือนมิถุนายน-กรกฎาคม เพราะติดในเรื่องโควิดและล็อกดาวน์ น่าจะดีหลังเดือนตุลาคม แต่ทั้งปีนี้ตัวเลขเกินเป้าแล้ว 4% 3-4 เท่าตัว คงต้องดูสถานการณ์อีกเดือนหน้าจะชัดเจนต่อการชัดเจนว่าทั้งปีเท่าไหร่”
นายจุรินทร์ กล่าวว่า การนำเข้าเดือนสิงหาคม 2564 มีมูลค่า 23,191.89 ล้านเหรียญสหรัฐ บวกถึง 47.92% ทำให้เดือนสิงหาคม ไทยขาดดุลการค้า 1,215.66 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผล 8 เดือนแรกปีนี้ นำเข้ามีมูลค่า 175,554.75 ล้านเหรียญสหรัฐ บวก 30.97% และยังได้ดุล 8 เดือนที่ 1,406.96 ล้านเหรียญสหรัฐ ดูจากอัตรานำเข้าที่สูง สะท้อนความต้องการสินค้าไทยและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในอนาคตดีขึ้นแน่นอน จึงได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก นอกจากผลักดันแผนงานปกติแล้ว ให้เร่ง 2 ช้อ คือ ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงเปิดเสรีการค้า และ เจาะหาตลาดใหม่ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง เช่น รัสเซีย ซีไอเอส แอฟริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำประเมินตัวเลขการส่งออกทั้งปี 2564 ในช่วง 4 เดือนที่เหลือ หากยังคงมูลค่าเดือนละ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ก็มีโอกาสที่ส่งออกทั้งปีจะได้ 13-15% โดยที่ส่งออกจะบวกในอัตราไม่ถึง 10% ได้สูงเพราะฐานมูลค่าปลายปี 2563 สูงขึ้นรวดเร็วหลังจากโควิดรอบ 2 คลี่คลายลง และเข้าเทศกาลปีใหม่ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ปีใหม่ 2565 คำสั่งซื้อจะเข้ามาเพิ่มแค่ไหน ซึ่งเอกชนให้ข้อมูลกับกระทรวงพาณิชย์ว่า คำสั่งซื้อในต่างประเทศจะสั้นลง เหลือ 2-3 เดือน แทน 3-9 เดือน เหมือนการค้าปกติ และจับตาการนำเข้าค่อนข้างสูงจนทำให้ไทยขาดดุลการค้า ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นได้บ่อยนัก
