ดาวจับมือ2หน่วยงานรัฐ จัดกิจกรรมออนไลน์ ‘เก็บ เซฟ โลก’

ดาวจับมือ2หน่วยงานรัฐ จัดกิจกรรมออนไลน์ ‘เก็บ เซฟ โลก’ ชวนเก็บและแยกขยะฝ่าโควิด เนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลปี 2564 ซึ่งตรงกับวันที่18 กันยายน ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง (ทช.) และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ร่วมกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง รวมทั้งองค์กรภาครัฐในท้องถิ่น จัดกิจกรรมออนไลน์ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก” ท้าชวนคนไทยเก็บขยะที่ตกค้างจากแหล่งน้ำใกล้บ้าน และคัดแยกขยะในครัวเรือนเพื่อป้องกันปัญหาขยะหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมแบบเชิงรุก โดยอาสาสมัครทั่วประเทศกว่า 1,500 คน ร่วมกันเก็บและคัดแยกขยะได้น้ำหนักกว่า 1,960 กิโลกรัม เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) หวังแก้ปัญหาขยะในทะเลอย่างยั่งยืน

กิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากล จังหวัดระยอง ประจำปี 2564 (International
Coastal Cleanup) จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ในแบบ New Normal พร้อมเชิญชวนภาคประชาชน
เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมรักษ์โลกภายใต้แคมเปญ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก” ในรูป
แบบอีเว้นท์ออนไลน์หรือ Virtual Event ครั้งแรกด้วยการให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมเก็บขยะจากแหล่ง
น้ำธรรมชาติ หรือคัดแยกขยะในครัวเรือนที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19 เนื่องจากผู้คนใช้เวลาโดยส่วนใหญ่อยู่กับบ้าน โดยแยกขยะตามประเภท อาทิ พลาสติก แก้ว กระดาษ โลหะ ออกจากขยะเศษอาหารและขยะปนเปื้อนอื่นๆ ซึ่งจะช่วยลดขยะที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณขยะที่จะต้องส่งไปกำจัด โดยขยะรีไซเคิลที่รวบรวมได้ยังสามารถขายต่อให้ร้านรับซื้อของรีไซเคิลใกล้บ้าน ซึ่งกิจกรรมได้สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2564

นายฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 การดูแลสิ่งแวดล้อมก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการเช่นกัน กิจกรรมออนไลน์ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก” ในครั้งนี้เป็นการสร้างความต่อเนื่องให้กับงานวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลซึ่งกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้เป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์มาโดยตลอด และยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือจากกิจกรรมออนไลน์ ‘Dow ท้า หยุดทิ้งพลาสติก’ ที่เราได้จัดไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากจิตอาสาจำนวนมาก

Advertisement

การให้ประชาชนร่วมกันเก็บขยะและแยกขยะไม่ใช่เพียงมุ่งหวังที่จะลดปริมาณขยะเพียงในช่วงเวลาของกิจกรรม แต่ยังทำให้ได้เห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะพลาสติกใช้แล้วที่ยังมีคุณค่าเกินกว่าที่จะทิ้งให้กลายเป็นขยะ โดยหวังว่าประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะช่วยกันแยกขยะในครัวเรือนต่อไปเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอันจะเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าการทำงานด้านความยั่งยืนของ Dow ในการลด
ขยะพลาสติกและส่งเสริมวงจรรีไซเคิล

ภารกิจการเก็บขยะชายหาดพร้อมกันทั่วโลกเป็นกิจกรรมที่องค์การอนุรักษ์ท้องทะเล (Ocean Conservancy
) ได้ริเริ่มขึ้นในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลเมื่อ 36 ปีก่อน โดยปีนี้เป็นปีที่ 19 ของการจัดกิจกรรมในประเทศไทย และเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในสถานการณ์โควิดจึงได้เปลี่ยนรูปแบบจากการเก็บขยะพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นให้จิตอาสาเก็บขยะจากแหล่งน้ำใกล้บ้านหรือแยกขยะจากในครัวเรือน นับจำนวนแล้วถ่ายภาพและส่งจำนวนขยะมารวมกันกับจิตอาสาจากทั่วประเทศที่มีใจห่วงใยสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการบูรณาการขององค์กรภาครัฐและเอกชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่มเพื่อหยุดขยะพลาสติกไม่ให้หลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล นับเป็นเป้าหมายสำคัญในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศให้มีความสมบรูณ์อีกครั้ง

ในฐานะหน่วยงานดูแลด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีเป้าหมายการจัดการและแก้ไขปัญหาขยะทะเลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเก็บขยะในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล การวางทุ่นกักขยะลอยน้ำ การติดตั้งบูมกักขยะบริเวณปากแม่น้ำทั่วประเทศ การดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลและในแนวปะการัง พร้อมสนับสนุนการจัดการขยะที่ต้นทางในครัวเรือน ชุมชน สถานประกอบการ รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเล สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลต่าง ๆ พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น อาสาสมัครและนักท่องเที่ยวในการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีการรณรงค์เก็บขยะชายฝั่งในทุก ๆ ปี และนำขยะไปสร้างมูลค่าเพิ่มตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเหมาะสม

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ผวก.) กล่าวว่า ปัจจุบันนโยบายของไทยมุ่งเน้นการยกระดับสิ่งแวดล้อมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG (Bio, Circular, Green Economy)
กนอ.จึงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้มีการส่งเสริมการบริหารจัดการ
ทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด โดย ผวก. มอบหมายให้นายฉกาจ พัฒนศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ร่วมกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดระยองดำเนินกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยดึงพลังของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการยกระดับการดูแลระบบนิเวศชายฝั่งร่วมกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรให้กับประเทศไทยอย่างมีประสิทธิผลต่อไป”

จากความสำเร็จในการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมภายใต้แคมเปญ “#PullingOurWeight เก็บ
เซฟ โลก” สามารถรวบรวมขยะประเภทต่าง ๆ ได้ทั้งสิ้น 196,951 ชิ้น แยกเป็นพลาสติก 104,677 ชิ้น แก้ว 3,567ชิ้น กระดาษ 32,740 ชิ้น เหล็กและอะลูมิเนียม 1,703 ชิ้น และขยะประเภทอื่น ๆ อีก 54,264 ชิ้น แสดงให้เห็นว่าการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางจะสามารถช่วยลดปริมาณขยะได้จริง โดยเฉพาะขยะรีไซเคิลที่มีมูลค่า อีกทั้งนอกเหนือจากช่วยป้องกันขยะจากครัวเรือนหลุดรอดไปสู่สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติแล้ว ยังนำไปสู่การสร้างรายได้ทั้งในครัวเรือนและชุมชน หากได้รับความร่วมมือจากประชาชนในแยกขยะอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถแก้ไขปัญหาขยะทะเลได้อย่างยั่งยืน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image