‘จุรินทร์’ ปลื้มค้าชายแดน-ผ่านแดน ส.ค. โตดีเกือบ 33% โชว์ยอดส่งออก 8 เดือนทะลุกว่า 6.8 แสนล้านบาท
ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ คือ เมียนมา ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย และ การค้าผ่านแดนไปจีน เวียดนามและสิงคโปร์ รวม 7 ประเทศนั้น ในเดือนสิงหาคม 2564 การค้าชายแดนและผ่านแดนมีมูลค่ารวม 147,638 ล้านบาท บวก 32.56% เป็นไทยส่งออก 91,133 ล้านบาท บวก 39% โดยไทยได้ดุลการค้า 34,628 ล้านบาท ส่งผลให้ 8 เดือนแรก 2564 ส่งออกผ่านการค้าชายแดนและผ่านแดนรวม 682,184 ล้านบาท บวก 38.03% โดยมาเลเซีย บวก 25.38% กัมพูชา บวก 8.85% ลาว บวก 23.93% เมียนมา บวก 16.23% ส่วนการค้าผ่านแดนไปจีนส่งออก บวก 100.12% สิงคโปร์ บวก 63.67% ยกเว้นเวียดนาม ลบ 9.19%
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ข้อสังเกต คือ 1. การค้าผ่านแดนไปศจีน เป็นบวกมากถึง 100.12% ผลจากส่งออกผลไม้ถึง 60% มูลค่า 14,700 ล้านบาท และขยายตัวถึง 217.4% โดยทุเรียนมีมูลค่า 11,000 ล้านบาท มังคุด 3157 ล้านบาท ลำไย 421 ล้านบาท เป็นต้น 2. เปิดด่านรอบประเทศที่มีด่านอยู่ 97 ด่าน เปิดแล้ว 46 ด่าน โดยเฉพาะลาว มาเลเซียและกัมพูชา ตนมีนโยบายเร่งรัดการผลักดันให้เร็วและมากที่สุด เพื่อให้การค้าชายแดนและผ่านแดนขยายตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับด่านระหว่างไทยกับลาวมี 7 ด่าน ตนมอบให้กรมการค้าต่างประเทศประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมี 6 จังหวัด ใน 7 ด่านคือ เชียงราย เลย หนองคาย นครพนมมุกดาหาร และอุบลราชธานี และประชุมเสร็จสิ้นแล้วมีการจัดทำแผนการเปิดด่านส่งให้ลาว พิจารณา รอคำตอบจากลาวหวังว่าจะมีความคืบหน้าโดยเร็ว และตนเพิ่งไปดูด่านปากแซงที่อุบลราชธานี ได้มีการประสานงานกันระหว่างผู้ว่าอุบล กับลาว มีความคืบหน้ามาก จึงเป็นที่มาของการทำแผนโดยใช้ปากแซงโมเดลในการดำเนินการเปิดด่านต่อไป สำหรับด่านไทยกับมาเลเซีย เร่งรัดการเปิดด่านเพิ่มอีก 2 ด่าน ที่นราธิวาส คือตากใบกับบูเก๊ะตา ขณะนี้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์เร่งรัดติดตามกับทางการมาเลเซีย โดยไทยพร้อมเปิดในวันที่ 15 ตุลาคมนี้แต่รอคำตอบจากมาเลเซียอีกครั้ง ส่วนด่านกัมพูชาจะเร่งรัดการเปิดบ้านหนองเอี่ยน ที่จังหวัดสระแก้ว
” ได้หารือกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและที่ปรึกษา ส่วนตัวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโซ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาไ ที่ได้เข้าพบตนที่กระทรวงพาณิชย์และมีการหารือกัน 2-3 ประเด็น โดยประเด็นที่ฝั่งกัมพูชาอยากเห็น 1. อยากให้ฝั่งไทยช่วยเร่งรัดแก้ปัญหาการจราจรหน้าด่านที่ฝั่งไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้สินค้าจากไทยข้ามไปกัมพูชาได้โดยเร็วและสะดวกขึ้น โดยเฉพาะเรื่องระบบการจัดทำเอกสารที่กัมพูชา เห็นว่าอาจสามารถลดได้ เพื่อความสะดวก 2. อยากให้ไทยเร่งรัดการเปิดด่านหนองเอี่ยน เพื่อถ่ายเทการจราจรอีกช่องทางหนึ่งให้สะดวกขึ้น 3. ขอให้ฝั่งไทยอำนวยความสะดวกเรื่องนำเข้าส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างกัน โดยเฉพาะข้อตกลงในมาตรการด้านสุขอนามัยระหว่างกัน “นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะที่ตนได้แจ้งให้ทางกัมพูชา 1. การเปิดด่านหนองเอี่ยนมีความเห็นตรงกันและเมื่อครั้งที่ตนไปเยือนกัมพูชาก่อนเกิดโควิด ได้เจรจากับรัฐมนตรีการค้า ท่านปาน สรศักดิ์ ที่พนมเปญและมีความเห็นตรงกัน ว่าจะใช้วิธีการเปิดด่านหนองเอี่ยน โดยไม่ต้องรอให้ด่านฝั่งไทยสร้างเสร็จแบบถาวรแต่จะใช้ตู้คอนเทนเนอร์ไปพลางก่อนเพื่อการค้าระหว่างกันจะได้เดินหน้าได้ เป็นการหารือเพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหา เช่น การติดขัดในบางส่วนให้เสร็จโดยเร็ว 2. ตนขอให้ท่านช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าไทยที่ไปโพสต์ขายอยู่ใน klangthai.com ของกัมพูชาประมาณ 220 กว่ารายการ ให้ชาวกัมพูชาได้รับทราบเพิ่มเติม 3. ตนแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบว่าใน 2 ปีหลังจากเลขาธิการอาเซียนของประเทศบรูไน หมดวาระจะเป็นคิวของกัมพูชา ประเทศไทยยินดีที่จะสนับสนุนชื่อที่กัมพูชาได้เสนอ 4. ตนประสงค์จะเห็นการประชุม JTC เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างไทยกับกัมพูชามากขึ้น โดยปี 2561 กัมพูชาเป็นเจ้าภาพ ปี 2562 ไทยเป็นเจ้าภาพ แต่ติดโควิด ซึ่งถ้าเป็นไปได้อยากเห็นการประชุม JTC ระหว่างไทยกับกัมพูชา ต้นปี 2565 ที่จะช่วยเพิ่มการค้าระหว่างกัน เพราะกัมพูชาถือเป็นคู่ค้าอันดับ 6 ของไทยในอาเซียนและอันดับ26 ของโลก ช่วง 8 เดือนไทยสามารถส่งออกไปกัมพูชาได้ 141,000 ล้านบาท บวก 10.8% และไทยได้ดุลการค้า 120,000 ล้านบาท สินค้าส่งออกไปกัมพูชา อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป บวก 67.5% น้ำตาลทราย บวก 63.6% ยานยนต์ บวก 36.2% เคมีภัณฑ์ บวก 34.1% ส่วนสินค้าไทยนำเข้า อาทิ ผักผลไม้ มันสำปะหลัง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ กล้วย พริก สินแร่และอัญมณี เป็นต้น
