‘ทีเส็บ’ ชง’ ศบค.’ อนุมัติคนเข้างานแสดงสินค้า 200-500 คน หลังคิวยาวเหยียด

ทีเส็บจ่อชงศบค.’ เดือน ..นี้ ขอคนเข้างานแสดงสินค้า 200-500 คน หลังมีงานต่อคิวเตรียมจัดแล้ว

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้อนุมัติให้จังหวัดสีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด สามารถจัดกิจกรรมหรือจัดประชุมได้ไม่เกิน 25 คน ขณะที่พื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือสีแดง ได้ไม่เกิน 50 คนส่วนจังหวัดสีส้ม ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมได้ไม่เกิน 100 คน แต่ยังไม่ให้เปิดดำเนินการศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ โดยให้ติดตามสถานการณ์ก่อน 2-4 สัปดาห์ เพราะต้องการประเมินการเดินทางเข้าร่วมอบรมสัมมนาที่มาจากหลายพื้นที่ และมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากนั้น โดยเบื้องต้น ทีเส็บ จะยื่นข้อเสนอให้จัดงานประชุมงานนิทรรศการและงานแสดงสินค้า ให้ได้ 200-500 คนภายในเดือนตุลาคมนี้ และ 500-1,000 คนภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนในเดือนธันวาคม จะไม่มีการจำกัดจำนวนคน ซึ่งในงานแสดงสินค้าจะจำกัด 1 คนต่อ 4 ตารางเมตรหากได้รับการอนุมัติทัน จะมีการจัดงานเฟอร์นิเจอร์ แอนด์ ลีฟวิ่ง เป็นงานแรกในวันที่ 1-14 ตุลาคมนี้ แต่ต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการวิชาการทางด้านสาธารณสุข และผ่านความเห็นชอบของศบค. รวมทั้งกรุงเทพมหานครก่อน

แนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงประชุมสัมมนา หรือธุรกิจไมซ์ ขณะนี้ทีเส็บได้เตรียมการกระตุ้นอุตสาหกรรมไมซ์ ผ่านแผนการขับเคลื่อนงานแสดงสินค้าในประเทศ ร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชน ภายใต้กลยุทธ์การเสริมความแกร่งระดับชาติ เพื่อในทันทีที่ประเทศมีความพร้อม โดยหากศบค. อนุญาตให้มีการจัดงานแสดงสินค้าได้ ก็จะสามารถจัดงานแสดงสินค้าได้ทันทีในประเทศทุกภูมิภาค ที่มีแผนการจัดงานประจำปีอยู่แล้ว โดยทีเส็บมองว่า การจัดงานแสดงสินค้าในประเทศเป็นแพลตฟอร์มเจรจาธุรกิจ ที่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น จึงเตรียมส่งเสริมการจัดงานในจังหวัดและเมืองไมซ์ ที่มีศักยภาพ  พร้อมกระจายการจัดงานสู่ภูมิภาค โดยเฉพาะการจัดงานแสดงสินค้าแบบบีทูซี เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในประเทศอย่างเร่งด่วน เนื่องจากการจัดงานแสดงสินค้าก่อให้เกิดธุรกรรมทางเศรษฐกิจในระยะเวลาอันสั้นนายจิรุตถ์ กล่าว

นายจิรุตถ์ กล่าวว่า เป้าหมายการส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้า จะมุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นให้มากขึ้น ทั้งการสนับสนุนงานแสดงสินค้าใหม่ และการยกระดับงานแสดงสินค้าเดิม มุ่งเน้นงานใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก คือ 1. กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ 2. กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ 3. กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม รวมถึงกลุ่มดิจิทัลเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว 4. กลุ่มพลังงานทางเลือก รถยนต์ โลจิสติกส์ รวมถึงคลังสินค้า และ 5. กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรมสินค้าและบริการที่มีศักยภาพของภูมิภาคต่างๆ ด้วย

นายประวิชย์ ศรีบัณฑิตมงคล นายกสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) กล่าวว่า เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะต้องดำเนินต่อไป และการจัดงานแสดงสินค้า หรือการประชุมต่าง ซึ่งเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น จะต้องทำหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าสถานการณ์โควิดจะหมดไปหรือไม่ก็ตามสมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) ได้วางแนวทางให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยมาตรการปกติปัจจุบัน พร้อมทั้งการนำนวัตกรรม และวิทยาการด้านดิจิทัลที่ผู้ประกอบการได้ปรับใช้กันอยู่ในปัจจุบันมาเป็นหนึ่งกลยุทธ์ที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมการแสดงสินค้าสามารถกลับมาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้อย่างสมบูรณ์

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image