‘สรรพสามิต’ ย้ำ 1-2 สัปดาห์นี้ขายบุหรี่ราคาเดิม ยังไม่ขึ้น วอนอย่าฉวยโอกาส เจอปรับหนักแน่

‘สรรพสามิต’ ย้ำใน 1-2 สัปดาห์นี้ราคาบุหรี่ยังไม่ขึ้น วอนอย่าฉวยโอกาส เจอปรับหนักแน่ เพราะผู้ผลิตและนำเข้ายังไม่ได้ยื่นสำแดงเสียภาษีอัตราใหม่ เผย ครม.สั่งให้ศึกษาโครงสร้างภาษีอัตราเดียว รอใช้ในช่วงที่เหมาะสม

เมื่อวันที่ 30 กันยายน นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า โครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ โครงสร้างบุหรี่ใหม่จะทำให้บุหรี่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นประมาณซอง 4-5 บาท จึงคาดว่าราคาขายปลีกบุหรี่ซอง 60 บาท อาจขึ้นไป 66-72 บาท แต่สุดท้ายจะขึ้นจริงเท่าไหร่ต้องรอผู้ประกอบการแจ้งเข้ามา โดยการปรับภาษีครั้งนี้ช่วยลดการบริโภคให้ได้ประมาณ 2-3% และมั่นใจว่าโครงสร้างภาษีใหม่นี้จะไม่ทำให้บุหรี่กลุ่มราคาสูงแพงขึ้น แต่จะปรับลดราคาลงมาแข่งกับบุหรี่ราคาถูกอย่างแน่นอน นอกจากนี้ จะทำให้ภาครัฐจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 3,500-4,500 ล้านบาทต่อปี แต่ยอมรับว่าอาจมีบุหรี่เถื่อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกรมสรรพสามิตจะมีการปราบปราบอย่างเข้มข้นขึ้นด้วยเช่นกัน

ในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้เป็นช่วงผู้นำเข้าและผู้ผลิตจะต้องยื่นแสดงต้นและราคาขายตามโครงสร้างภาษีใหม่ มาให้กรมพิจารณา ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว บุหรี่ที่จำหน่ายในท้องตลาดจะต้องเป็นราคาเดิม หากพบการขึ้นราคาจะถือว่าเป็นการขายราคาไม่ตรงกับต้นทุนที่แจ้งไว้

“ผู้ซื้อสามาถตรวจสอบบุหรี่ที่ซื้อได้ด้วยตัวเองผ่านคิวอาร์โค้ดบนดวงแสตมป์ ซึ่งจะแสดงรายละเอียดของการเสียภาษี หากเสียภาษีก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถือเป็นบุหรี่สต๊อกเก่าทั้งหมด จะต้องขายบุหรี่ราคาเดิมเท่านั้น และหากตรวจพบว่าแจ้งภาษีเป็นเท็จ มีโทษปรับภาษีเพิ่มขึ้น 2 เท่า และเงินเพิ่มอีก 7.5% แต่ถ้าเป็นร้านค้าปลีกขายเกินราคาจะมีการตักเตือน หากไม่เชื่อฟังก็อาจต้องยึดใบอนุญาต” นายลวรณกล่าว

นายลวรณกล่าวว่า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการกักตุน และฉวยโอกาสขึ้นราคาตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะมีการส่งเจ้าหน้าที่สรรพสามิตปูพรมตรวจสต๊อกผู้ประกอบการ ร้านค้าส่งรายใหญ่ว่ามีสต๊อกเดิมเท่าไหร่ และในปีนี้จะมีการเพิ่มประสิทธิภาพปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างจริงจัง โดยมีการตั้งศูนย์สำหรับติดตามของหนีภาษีทางออนไลน์ ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนช่วยสอดส่อง โดยสามารถใช้โทรศัพท์มือถือสแกนรหัสคิวอาร์โค้ดบริเวณแสตมป์บนซองบุหรี่ หากเป็นบุหรี่ที่เสียภาษีก่อน 1 ตุลาคม 2564 ที่ขายเกินราคา สามารถร้องเรียนมาที่กรมสรรพสามิต และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้

Advertisement

นายลวรณกล่าวต่อว่า นอกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่แล้ว ยังได้มอบหมายให้กรมศึกษาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่เป็นอัตราเดียว เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขัน และนำจะมาใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมในอนาคต รวมถึงได้รับมอบหมายให้กรมประสานการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) และสำนักงบประมาณ เพื่อจ่ายเงินชดเชยให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระ ตามกรอบวงเงินที่ ครม.ได้อนุมัติ 159.59 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระ 14,200 ราย

นายลวรณกล่าวว่า และ ครม.ได้มอบให้ ยสท.ไปศึกษาการปลูกทดแทนยาสูบ โดยให้สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เข้ามาบทบาทในการสร้างองค์ความรู้ และการเปลี่ยนผ่านให้เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบไปสู่พืชทดแทน ที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image