แบงก์ชาติมองปลายปีเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว คาดจะไม่เกิดการระบาดรอบใหม่ เหตุวัคซีนมีความชัดเจนมากขึ้น
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2564 ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนลดลงตามกำลังซื้อที่อ่อนแอและมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด แม้มีมาตรการภาครัฐช่วยพยุงกำลังซื้อ ขณะที่การส่งออกสินค้าลดลงในหลายหมวดตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว หลังการระบาดในต่างประเทศรุนแรงขึ้น
ด้านการลงทุนภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงตามภาวะอุปสงค์ ประกอบกับการผลิตบางส่วนได้รับผลกระทบจากปัญหาการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงจากการแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้น อย่างไรก็ดีการใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวทั้งรายจ่ายเงินโอนและรายจ่ายประจำ
นางสาวชญาวดี กล่าวว่า ในสถานการณ์น้ำท่วมโดยภาพรวมตอนนี้ยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากน้ำท่วมนอกเขตพื้นที่อุตสาหกรรม อีกทั้งพื้นที่อุตสาหกรรมมีการเตรียมรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมได้ อาจจะได้รับผลกระทบจากการขนส่งสินค้าที่อาจจะชะลอไป ด้านค่าเงินบาทมีความผันผวนมาก โดยมีปัจจัยจากภายนอกประเทศส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงิน รวมไปถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ของจีน แต่ทาง ธปท. ได้ทำหน้าที่ไม่ให้เงินบาทมีความผันผวนมากเกินไป มีการจับตาอย่างใกล้ชิด
“ในเดือน ก.ย. กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นบ้าง หลังจากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวในไตรมาส 4 อาจจะไม่ได้เห็นการแพร่ระบาดในรอบใหม่ เพราะประชาชนในประเทศมีการฉีดวัคซีนได้มากขึ้น อีกทั้งมีแผนการจัดหาวัคซีนที่แน่นอน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่มีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐมีมาตรการและสามารถทำได้ดี จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ปีหน้า ปัจจัยสำคัญคือเรื่องวัคซีน ถ้าหากมาตามเป้าหมายจะทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจชัดเจนมากยิ่งขึ้น” นางสาวชญาวดี กล่าว