‘ยุทธนา’ฝากงานอธิบดีกรมธนารักษ์คนใหม่ เร่งจัดระเบียบที่ราชพัสดุ จัดทำระบบ ‘ประเมินที่ดินแห่งชาติ’ เปิดประมูลบ้านทรงคุณค่า
วันที่ 30 กันยายน 2564 นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนานารักษ์ เปิดเผยว่า สิ่งที่อยากจะฝากถึงอธิบดีคนต่อไป คือ การจัดระเบียบที่ราชพัสดุที่มีอยู่ 12.6 ล้านไร่ ให้ถูกประเภทการใช้ ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 96% เป็นพื้นที่ที่ส่วนราชการรับผิดชอบดูแลอยู่ โดยถ้าจะใช้เชิงพาณิชย์หรือเชิงธุรกิจ จะต้องเข้ามาเสียค่าเช่าค่าธรรมเนียมให้กรมธนารักษ์ ส่วนเอกชนและประชาชน ที่นำที่ดินไปใช้ผิดประเภทก็จะต้องเข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้อง เช่นกัน ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินจัดระเบียบไปแล้ว 70-80% แล้ว
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องสานต่อที่ประชาชนบุรุกที่ราชการ ซึ่งอาศัยอยู่ก่อนปี 2546 ที่ขณะนี้ดำเนินการจัดเช่าให้ถูกต้องแล้วกว่า 80% โดยเกษตรกรที่นำสัญญาเช่าไปขึ้นทะเบียน พอเกิดเหตุอุทกภัย วาตภัยก็จะได้สิทธิได้รับเงินเยียวยาจากรัฐ หรือนำสัญญาเช่าไปกู้ธนาคารและขอทุนเพื่อสร้างอาชีพได้
ส่วนการประเมินที่ดินทั้งประเทศ ทั้งที่ราชพัสดุและที่มีโฉนดนั้น ขณะนี้ได้ของบประมาณปี 2565 ไว้แล้ว 60 ล้านบาท เพื่อจัดทำระบบเชื่อมโยงระหว่างกรมธนารักษ์ กรมที่ดิน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รักว่า ระบบประเมินที่ดินแห่งชาติ ซึ่งต่อไปจะเช็กระบบได้ง่ายขึ้น ทั้งเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานอื่นที่ต้องการใช้ข้อมูลด้วย
“คาดว่าจะยังไม่มีการประเมินที่ดินใหม่ โดยในปีนี้ยังยึดการประเมินที่ดินของปี 2559-2563 ไปก่อน ส่วนในปีหน้าจะประเมินใหม่หรือไม่นั้นต้องแล้วแต่นโยบายกระทรวง ส่วนการเว้นเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุ 1 ปี ช่วยประชาชน เกษตรกร เอกชนที่เช่าที่ราชพัสดุบางส่วน ซึ่งจะสิ้นสุดเดือน ธ.ค.นี้ คาดว่าอาจจะมีการขยายระยะเวลาออกไป” นายยุทธนากล่าว
นอกจากนี้ ยังมีบ้านทรงคุณค่า 126 หลังทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในส่วนราชการ ให้ช่วยกันดูแลรักษา ส่วนที่ได้คืนมา 7 หลัง ขณะนี้กำลังเปิดประมูลเชิงพาณิชย์แล้ว เช่น บ้านวังค้างคาว โรงภาษีร้อยชักสาม เป็นต้น โดยทำงานร่วมกับกรมศิลปากร เพื่อให้คงรูปแบบเดิมมากที่สุด หวังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ดึงดูชาวต่างชาติเข้าไทย ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
“เรื่องสุดท้ายที่อยากฝากคือ การเร่งรัดโครงการที่ค้างนานๆ ให้สำเร็จ เช่น โครงการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือสงขลา คาดว่ากรมจะได้ค่าธรรมเนียมจากการเปิดประมูลประมาณ 5,000 ล้านบาท การเปิดประมูลพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เช่น ที่หนองคาย มุกดาหาร และแม่สอด สิทธิประโยชน์สอดคล้องอีอีซี ให้สัญญา 50 ปี เป็นต้น” นายยุทธนากล่าว