สั่งเพิกถอนใบอนุญาต‘ไทยทีวี’ ให้เวลา30วันจ่าย1.6พันล. ‘ธ.กรุงเทพ’เสียวจ่ายแทน

นายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ได้มีมติเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบทีวีดิจิตอล ของ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ใน 2 ช่องรายการ ประกอบด้วย ช่องเอ็มวีทีวีแฟมิลี และช่องไทยทีวี ภายหลังจาก ไทยทีวี เพิกเฉยต่อการชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลในงวดที่2 ประกอบกับที่ผ่านมา บอร์ด กสท. ได้มีการระงับใบอนุญาตไปแล้วถึง 3 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดครบกำหนดไปแล้วเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ จึงให้การยกเลิกใบอนุญาตมีผลทันทีวันที่ 4 กุมภาพันธ์

นายสมบัติ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ ทางสำนักงาน กสทช. จะมีหนังสือไปแจ้ง บริษัท ไทยทีวี เพื่อให้มาดำเนินการชำระค่าประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิตอล ตั้งแต่งวดที่2 จนถึงงวดที่ 6 ให้ครบตามจำนวนที่ชนะการประมูลใบอนุญาตมา ภายใน 30 วัน พร้อมทั้งต้องชำระเงินค่าปรับเบี้ยวชำระหนี้ในอัตรา 7.5% ต่อปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2558 และค่าธรรมเนียมรายปี ในอัตรา 2% จากรายได้รวมต่อปี

โดยบอร์ด กสท. ยังได้มีมติให้ส่งหนังสือไปแจ้ง ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่าหากครบกำหนด 30 วัน บริษัท ไทยทีวี ยังเพิกเฉย ทาง กสทช. จะใช้สิทธิ์ตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อขอให้ ธนาคารกรุงเทพ ต้องชำระเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอลแทน บริษัท ไทยทีวี แทนทั้งหมด ตามที่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เป็นผู้ออกหนังสือรับรองทางการเงิน(แบงก์การันตี) ให้แก่ บริษัท ไทยทีวี นอกจากนี้ ทางสำนักงาน กสทช. ยังมี หนังสือไปแจ้งต่อผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลภาคพื้นดินของบริษัท ไทยทีวี คือ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และ ผู้ให้บริการโครงการทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวี เพื่อรับทราบในการห้ามนำช่องเอ็มวีทีวีแฟมิลี และไทยทีวี ไปออกอากาศ

อย่างไรก็ตาม ค่าปรับที่บริษัท ไทยทีวี ต้องชำระให้ กสทช. รวมทั้ง 2 ช่องรายการอยู่ที่ราว 1,634.4 ล้านบาท ค่าปรับเบี้ยวชำระหนี้(ตั้งแต่ 26 พฤษภาคม 2558 – 4 กุมภาพันธ์ 2559) ราว 14 ล้านบาท ส่วนค่าธรรมเนียมรายปี ยังคำนวณไม่ได้ เนื่องจาก บริษัท ไทยทีวี ยังไม่ได้มีการแจ้งผลประกอบการมายัง กสทช.

นายสมบัติ กล่าวว่า นอกจากนี้ บอร์ด กสท. ยังได้มีการพิจารณา กรณีที่ บริษัท จีเอ็มเอ็ม บี จำกัด แจ้งเปลี่ยนแปลงบริการในแพคเก็จแซทเพย์ทีวี โดยนำบริการออกจากกล่องรับสัญญาณของจีเอ็มเอ็มแซ็ท ที่ประชุมพิจารณาเห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงรายการ ที่ทาง จีเอ็มเอ็มแซท ไม่ได้มีการแจ้งแก่สมาชิกได้ให้ทราบล่วงหน้า การกระทำของจีเอ็มเอ็มแซท ถือเป็นการกระทำที่เอาเปรียบผู้บริโภค จึงมีคำสั่งให้ระงับการกระทำที่เอาเปรียบดังกล่าว หากฝ่าฝืนจะมีการกำหนดค่าปรับทางปกครอง โดยจะปรับ 2 ล้านบาท และปรับอีกวันละ 100,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนคำสั่ง ทั้งนี้ทาง กสท. ยังได้มีมติขอให้ บริษัทจีเอ็มเอ็มบี แจ้งการเปลี่ยนแปลงกับผู้ใช้บริการล่วงหน้า 30 วัน และส่งแผนเยียวยาผู้ใช้บริการกลับมาที่ กสท. ด้วยเช่นกัน

ADVERTISMENT