นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) หรือเอ็ตด้า เปิดในงานแถลงข่าว ผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ปี 2558 ว่าจากการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ จากกลุ่มตัวอย่างของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซทั่วประเทศทั้งสิ้น 527,324 ราย รวมทั้งยังได้รับความร่วมมือจากสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าในปี 2558 อีคอมเมิรซ์ของไทย มีมูลค่าอยู่ที่ 2.24 ล้านล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 10.41% ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็น 43.47% ของมูลค่าซื้อขายสินค้าและบริการทั้งหมดในประเทศ โดยมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซ ปี 2558 สามารถจำแนกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจขายให้ธุรกิจ (บีทูบี) 1.33 ล้านล้านบาท คิดเป็น 59.45% ธุรกิจขายให้ผู้บริโภค (บีทูซี) 509,998 ล้านบาท คิดเป็น 22.72% และธุรกิจขายให้แก่ภาครัฐ (บีทูจี) 400,339 ล้านบาท คิดเป็น 17.83%
“อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซสูงสุด 3 อับดับแรก คือ อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก 559,687 ล้านบาท คิดเป็น 30.21% อุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่ง 536,725 ล้านบาท คิดเป็น 28.97% และ อุตสาหกรรมการผลิต 428,736 ล้านบาท คิดเป็น 23.14%” นางสุรางคณากล่าว และว่า จากผลการสำรวจมูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซยังคงเป็นธุรกิจที่น่าจับตา โดยมีผู้สนใจลงทุนค้าขาย รวมถึงการใช้บริการ มูลค่าอีคอมเมิร์ซแบบบีทูซี เมื่อเปรียบเทียบในอาเซียนแล้วประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าทุกประเทศในภูมิภาค ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยจึงมีแนวโน้มอัตราการเติบโตที่ดีมาจาก 3 ปัจจัย คือ เทคโนโลยี นโยบายภาครัฐในการขับเคลื่อนสังคมเศรษฐกิจดิจิทัล และรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
นางสุรางคณากล่าวว่า ส่วนแนวโน้มตลาดอีคอมเมิร์ซในปี 2559 น่าจะมีอัตราการเติมโตจากปี 2558 ที่ 12.42% หรือคิดเป็นมูลค่า 2.52 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 40.08% ของมูลค่าซื้อขายสินค้าและบริการทั้งหมดในประเทศ ทั้งนี้ ภาพรวมของการคาดการณ์อุตสาหกรรมในปี 2559 หากไม่นับรวมมูลค่าอีออคชั่น หรือการประมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ จะพบว่าอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าอีคอมเมิร์ซมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ อุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่ง 731,828 ล้านบาท คิดเป็น 34.55% อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก 643,033 ล้านบาท คิดเป็น 30.35% และอุตสาหกรรมการผลิต 343,866 ล้านบาท คิดเป็น 16.23%
นางสุรางคณากล่าวว่า ทั้งนี้ ในวันที่ 7-9 ตุลาคมนี้ เอ็ตด้าจะจัดงาน “Thailand e-Commerce Week” ภายใต้แนวคิด “e-Commerce is all around you” หรืออีคอมเมิร์ซ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวคนไทยอีกต่อไป ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกรรมออนไลน์ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในเชิงรุก ตลอดจนมุ่งพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกรรมออนไลน์ ให้ผู้ใช้งานเกิดความเชื่อมั่น ยกระดับผู้ประกอบการในการทำอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และโอท็อป ที่ขยับธุรกิจเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น
