นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับที่ 2 (ปี 2560-2564) กระทรวงจะเน้นการสร้างกิจกรรมและสินค้าด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวใหม่ๆ ให้เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และแก้ปัญหาแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมซึ่งได้รับความนิยม แต่เริ่มแออัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น จำเป็นต้องกระจายไปแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และในแผนดังกล่าวยังเตรียมจะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้รองรับนักท่องเที่ยวทั้งมวล โดยเฉพาะ กลุ่มคนพิการ เด็ก สตรีตั้งครรภ์ ซึ่งปัจจุบันกลุ่มดังกล่าว มีจำนวนกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก และเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพ เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเฉลี่ย 6-7 ครั้งต่อปี อีกทั้งเมื่อเดินทางจะใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูงกว่าคนทั่วไป 10-15% และจะต้องมีผู้ติดตามเป็นผู้ดูแลตามมาด้วย อย่างน้อย 1-2 คน ซึ่งในปี 2560 จะผลักดันให้กลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นด้วย
“กระทรวงจะหารือกับภาคเอกชนถึงแนวทางการพัฒนากลุ่มนักท่องเที่ยวคนพิการ หรือกลุ่มอื่นๆ โดยจะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มคนพิการทั้งเรื่องความสามารถการใช้จ่าย และความสามารถในการเดินทางท่องเที่ยว เพื่อให้มาลงทุนพัฒนาสาธารณูปโภค อาทิ ห้องน้ำสาธารณะ พัฒนาโรงแรมรองรับคนพิการ ร้านอาหาร ระบบขนส่งสาธารณะ และเมื่อเอกชนลงทุนพัฒนาด้านนี้อย่างจริงจัง สามารถรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวได้ กระทรวงจะช่วยประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ด้วย” นางกอบกาญจน์กล่าว
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า เตรียมหารือกระทรวงการคลัง กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมจัดทำยุทธศาสตร์การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับแนวคิดขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) ที่ส่งเสริมการเข้าถึงการท่องเที่ยวของคนทั้งมวลอย่างเท่าเทียมและยังยืน ก่อนนำบรรจุเข้าสู่แผนพัฒนาการท่องเที่ยวฯ ฉบับที่ 2 และเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาการขับเคลื่อนการดำเนินงานต่อไป
นายพงษ์ภาณุกล่าวว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเพื่อมวลชน หรือคนพิการ คนแก่ ของไทยยังมีไม่มาก แม้กฎหมายจะออกมาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง แต่การบังคับใช้กฎหมายยังไม่ดีพอ ดังนั้น เมื่อรัฐบาลพร้อมเดินหน้าที่จะลงทุนในเมกะโปรเจ็กต์การท่องเที่ยว ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก จำเป็นต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอความคิดเห็นจาก ครม.ให้ช่วยผลักดันให้เป็นรูปธรรม ดังนั้น จากนี้ต่อไปอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเกิดการลงทุนขนาดใหญ่
