‘บีซีพีจี’พร้อมเทรดในตลาดหลักทรัพย์ 28 ก.ย.นี้มูลค่าทรัพย์หลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอเกือบ 2หมื่นล้าน

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ในวันที่ 28 กันยายน 2559 นี้ โดยบริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รวมถึงลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เช่น ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นรวม 324 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ บีซีพีจี เป็นบริษัทย่อยของ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ที่เกิดจากการปรับโครงสร้างโดยแยกกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนออกมา เพื่อรองรับการขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในอนาคตของกลุ่มบางจาก

โดยปัจจุบัน บีซีพีจี มีทุนชำระแล้ว 9,950 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,400 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 590 ล้านหุ้น โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนต่อผู้ถือหุ้นของบางจากเฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น 55.91 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 14-16 กันยายน 2559 และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนต่อบุคคลทั่วไป นักลงทุนสถาบัน และผู้มีอุปการคุณของบีซีพีจี 534.09 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท เมื่อวันที่ 16 และ 19-20 กันยายน 2559 มีมูลค่าระดมทุนรวม 5,900 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ 19,900 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับกลุ่มบริษัท โดยมีแผนนำเงินที่ระดมทุนได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ไปใช้ขยายธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศ สอดรับกับพันธกิจของบริษัทที่มุ่งมั่นขยายการลงทุน พัฒนา และบริหารโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดไปทั่วโลก เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องต่อยอดการเติบโตที่ยั่งยืน

หลังไอพีโอบริษัทจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรก ได้แก่ บริษัท บางจากปิโตรเลียมถือหุ้น 70.4% กลุ่มตระกูลวชิรพงศ์ ถือหุ้นรวม 1.4% และนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ถือหุ้น 1.0% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ มาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของนักลงทุนสถาบัน โดยราคาเสนอขายหุ้นไอพีโออยู่ที่ 10 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (พีอี) ที่ 10.55 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 กรกฎาคม 2558-30 มิถุนายน 2559) หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.95 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image